ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
จุรินทร์ หารือทูตจีน ปลื้มการค้าไทย-จีน +32%
01 พ.ย. 2564

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และนายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมแถลงข่าวภายหลังเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย นายหาน จื้อเฉียง ขอเข้าเยี่ยมคาระวะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ณ ห้องรับรองชั้น 11 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ไทยจีนมีมาต่อเนื่องยาวนาน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ด้านการค้าที่มีพัฒนาการมาเป็นลำดับ ซึ่งในปี 2563 ไทยกับจีนมีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 2.49 ล้านล้านบาท หรือเกือบ 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย. 2564) มูลค่าการค้าสองฝ่ายเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าสูงมาก โดยมีมูลค่า 2.41 ล้านล้านบาท ทำให้มูลค่าการค้า +32% เฉพาะตัวเลขการส่งออกของไทยไปจีน 878,280 ล้านบาท +27% 

สำหรับการหารือในครั้งนี้ มีประเด็นสำคัญ 4 เรื่อง ดังนี้

ประเด็นที่ 1 ไทยและจีนเห็นตรงกันว่าจะเร่งจัดการประชุม JC หรือคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกันโดยเร็วที่สุด เพื่อประโยชน์ทางการค้าการลงทุนและความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน 

ประเด็นที่ 2 ไทยและจีนต้องการเร่งให้ RCEP มีผลบังคับใช้ ซึ่งจะต้องมีสมาชิกอาเซียนอย่างน้อย 6 ประเทศ ให้สัตยาบัน และสมาชิกนอกอาเซียนอย่างน้อย 3 ประเทศให้สัตยาบัน ซึ่งไทยได้ยื่นให้สัตยาบันไปแล้ว เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา และจะร่วมมือกันเร่งรัดให้ข้อตกลง RCEP มีผลบังคับโดยเร็ว เพื่อประโยชน์ของประเทศสมาชิกทั้ง 15 ประเทศ 

ประเด็นที่ 3 ไทยและจีนจะร่วมมือกันในการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระหว่างกัน รวมทั้งเรื่องของรถไฟความเร็วสูงด้วย ซึ่งท่านทูตจีนได้แจ้งว่ารถไฟจากจีนไปลาวเปิดให้บริการแล้ว และจะร่วมมือกับไทยในการเร่งสร้างรถไฟความเร็วสูง เส้นทางที่จะเชื่อมลาวเพื่อให้ระบบการขนส่งสินค้าเข้าออกระหว่างกันนั้นมีความคล่องตัวและเพิ่มมูลค่าได้มากขึ้นโดยเร็ว 

ประเด็นที่ 4 ไทยกับจีนจะร่วมมือกันนำเข้า-ส่งออกสินค้าระหว่างกัน โดยเอกอัครราชทูตฯ แจ้งว่ายินดีให้ความร่วมมือในการนำเข้าสินค้าเกษตรจากไทย และพร้อมอำนวยความสะดวกสินค้าอื่นๆ ด้วย 

“ผมได้หยิบยกเรื่องการค้าระหว่างไทยกับจีนมาหารือเป็นการเฉพาะ รวมทั้งหมด 4 ประเด็น คือ ประเด็นที่ 1 ขอให้ทางการจีน เปิดด่าน 2 ด่าน ที่ปิดไปในช่วงโควิด คือ (1) ด่านโมฮาน ที่เป็นด่านทางบกเริ่มต้นจาก อ.เชียงของ จ.เชียงราย ทางตอนเหนือของไทย ผ่านบ่อเต็นไปเข้าทางยูนนานตอนใต้ของจีน และ (2) เส้นทางผ่านแม่น้ำโขงจากท่าเรือเชียงแสนของไทยไปเข้ายูนนานตอนใต้ของจีน ที่ด่านกวนเหล่ยหรือท่าเรือกวนเหล่ย ซึ่งปิดไปเพราะโควิดเช่นกัน อยากให้เร่งกลับมาเปิดโดยเร็ว รวมทั้งเพิ่มเงื่อนไข คือ ขอให้จีนอนุญาตนำเข้าผลไม้จากไทยผ่านด่านกวนเหล่ยได้ ประเด็นที่ 2 การนำเข้าไก่จากไทย เรามีโรงงานส่งออกไก่ไปจีน 22 โรงงาน แต่ในช่วงโควิดปิดไป 9 โรงงาน ขณะนี้สถานการณ์โควิดคลี่คลายแล้ว จึงขอให้ท่านทูตช่วยแจ้งให้ GACC หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับศุลกากรที่มีหน้าที่มาตรวจโรงงานผลิตไก่ในไทย เพื่ออนุญาตให้นำเข้าจีนได้ต่อไป และเร่งตรวจโรงงานส่งออกไก่ 9 โรงงานผ่านระบบออนไลน์ รวมทั้งขอให้จีนเพิ่มรายการนำเข้าไก่ในส่วนที่ยังไม่อนุญาต เช่น ไก่ทั้งตัวรวมหัว สะบักไก่ ข้อไก่ และเป็ด เป็นต้น ประเด็นที่ 3 เรื่องการนำเข้ารังนกจากไทย ซึ่งจีนนำเข้าจากไทยแค่ 2 บริษัท แต่ไทยยังมีอีก 9 ราย ที่ขออนุญาตจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่ จึงขอให้จีนเร่งตรวจโรงงานเพิ่ม เพื่อให้ไทยสามารถส่งออกรังนกไปจีนเพิ่มขึ้น และประเด็นที่ 4 เรื่องข้าว ซึ่งจีนกับไทยมี MoU ระหว่างกันอยู่ 1 ล้านตัน ที่จีนจะนำเข้าข้าว โดยจีนได้นำเข้าไป 7.2 แสนตัน ยังคงค้างอยู่อีก 2.8  แสนตัน จึงได้ขอให้ท่านทูตช่วยแจ้งคอฟโก้ ซึ่งเป็นองค์กรนำเข้าข้าวจากไทย เร่งดำเนินการให้ครบถ้วนตาม MoU ต่อไป” นายจุรินทร์กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันจีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย โดยในช่วง 9 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ก.ย.) การค้าระหว่างไทยกับจีน มีมูลค่า 76,965 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 คิดเป็นร้อยละ 31.61 โดยเป็นการส่งออกจากไทยไปจีน มูลค่า 28,274 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากจีนมาไทย มูลค่า 48,692 ล้านเหรียญสหรัฐ

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...