วันนี้ 4 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีสื่อมวลชนได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่เจ้าของที่ดินแปลงข้างเคียงถมที่พร้อมสร้างกำแพงสูงมิดหลังคาบ้าน รวม 8 หลัง เหตุเกิดบริเวณซอยด้านข้างร้านอาหารครัวภักดี ท้องหมู่ 1 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยเมื่อวันที่ 3 พ.ย.64 ที่ผ่านมานางสาวมธุรส คุ้มประสิทธิ์ อาจารย์สาขาวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี 1 ใน 8 ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ และเป็นเจ้าของบ้านเลขที่ 190/98 หมู่ 1 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้นำเอกสารที่ยื่นให้กับหน่วยงานภาครัฐเข้าไปให้ความช่วยเหลือ มอบให้กับสื่อมวลชน เพื่อให้ทราบถึงความเป็นมาของความเดือดร้อนที่จำเป็นจะต้องร้องเรียนถึงหน่วยงานภาครัฐ
โดยหนังสือร้องเรียนฉบับดังกล่าว ระบุถึงที่มาที่ไปของความเดือดร้อน ว่า “ ด้วยประมาณปี 2554 ขาวบ้านหมู่บ้านซอยครัวภักดี ได้สร้างบ้านที่อยู่อาศัยตามลักษณะพื้นที่เดิมคือทำการสร้างบ้านโดยการถมที่ดินหลดหลั่นไปตามพื้นที่จากสูงไปหาต่ำ โดยบ้านทุกหลังมีทัศนียภาพที่งดงามบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมดี เงียบ และสงบ แสงสว่างเข้าสู่ตัวบ้านโดยไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ มีลมพัดผ่านตลอด ทุกบ้านจึงสร้างบ้านด้วยเหตุผลนี้และยังคงผ่อนชำระกับธนาคารเป็นระยะเวลาที่เหลืออีกเกือบ 30 ปี
กระทั่งต้นปี 2563 ได้มีนักธุรกิจมาซื้อที่ดินว่างที่มีลักษณะเป็นป่าธรรมชาติบริเวณข้างซอยครัวภักดีด้านซ้ายมือยาวตลอดในพื้นที่หลายไร่ และมีการถมที่ดินสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดทั้งปี จนคนในหมู่บ้านต้องต่อกำแพงให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันดินเข้าบ้านตนเอง แต่ก็ยังไม่หยุดจนปัจจุบันนี้ระดับดินท่วมเท่ากับหลังคาบ้านทุกหลังในซอย ทำให้เกิดปัญหาทั้งมลพิษทางเสียง ทางอากาศ การบดอัดของดินกระทบต่อโครงสร้างของบ้าน คือ บ้านสั่น ทรุด แตกร้าว เสียหาย
โดยปลายปี 2563 เกิดฝนตกหนักน้ำมีลักษณะขุ่น สีแดง ไหลทะลักเข้าบริเวณบ้านตั้งแต่บ้านเลขที่ 190/74-190/98 เป็นครั้งแรกจากที่อยู่มาเป็นสิบปี เกิดโพรงขนดใหญ่ เป็นที่ประจักษ์ได้ว่าสาเหตุมาจากการถมที่สูงเกินกว่าระดับข้างเคียงมากจนน้ำทั้งหมดไหลลงมาเข้าหมู่บ้านที่อาศัยอยู่มาก่อน โดยเจ้าของบ้านทุกหลังไม่เคยพบปัญหาน้ำท่วมขังมาก่อนแม้แต่น้อย เป็นข้อสังเกตได้ว่าลักษณะการก่อสร้างกำแพงกันดิน กำแพงบ้าน จำนวนดินที่ใช้ถม ไม่สามารถสร้างความปลอดภัยให้กับชาวบ้านหมู่บ้านซอยครัวภักดีได้ และไม่พบการวางท่อใต้ดินตามแนวกำแพงเพื่อกันน้ำทะลัก กันดินไหล ตามลักษณะกฎหมายที่ว่าด้วยเรื่องกำแพงกันดิน
ทำให้ชาวบ้านหมู่บ้านซอยครัวภักดีเกิดความหวั่นวิตกมากขึ้น หากในอนาคตยังคงมีการก่อสร้างแต่ปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ไม่มีการดำเนินการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการขออนุญาต ตรวจสอบลักษณะกำแพงกันดิน กันน้ำว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ การบดอัดดิน การนำรถใหญ่มาวิ่งเหยียบไปมาทั้งปี ฝุ่นละอองเกาะหนาทั่วทั้งบ้าน เสียงที่รบกวนการทำงานตลอดเวลาเพราะช่วงโควิด-19 ต้องทำงานที่บ้านรวมถึงนักเรียนเรียนหนังสือที่บ้านไม่ได้เลยการสร้างกำแพงสูงใหญ่บดบังทัศนียภาพ สร้างอิฐบล็อกหันหน้าออกหน้าบ้านทุกหลัง สร้างความทุกข์ให้กับเจ้าบ้าน ส่วนตัวบ้านหมดความน่าอยู่น่าอาศัย ลดมูลค่าของบ้านลง ไฟในบ้านต้องเปิดเพราะกำแพงสูงจนบังแสงอาทิตย์ที่เคยส่องสว่างเข้าบ้านทุกหลัง ต้นไม้ไม่ได้รับแสง บริเวณสวนต้องเปลี่ยนพันธุ์ไม้
ทางชาวบ้านหมู่บ้านซอยครัวภักดีด้านซ้ายมือจึงขอร้องทุกข์และขอให้ดำเนินการตรวจสอบแก้ไขปัญหาต่อไปนี้โดยเร่งด่วน เนื่องจากเรื่องนี้ได้ทนทุกข์มาตลอดระยะเวลา 1 ปี แล้ว การก่อสร้างก็ยังไม่เสร็จสิ้น ยังคงมีการก่อสร้างเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนปัจจุบันยังไม่สามารถรับทราบได้ว่าเจ้าของที่ดินคือ (((นาง ศ. ขอสงวนชื่อและนามสกุล))) จะรับผิดชอบเยียวยาปัญหาที่สร้างขึ้นมาแล้ว และแก้ไขไม่ให้เกิดปัญหานี้อีกตามกฎหมายได้อย่างแท้จริงหรือไม่
ดังนั้นจึงขอให้เร่งดำเนินการตรวจสอบ ดังต่อไปนี้
1. ขอให้ตรวจสอบหลักฐานการขออนุญาตการถดินของ (((นางศิริพร เชียวสุรัตน์))) จากเทศบาลตำบลลาดหญ้า หลักฐานการสร้างกำแพงกันดิน กันน้ำ ว่ารองวับแรงดันของดินที่สูงถึงระดับหลังคาและน้ำไหลลงเข้าทางหมู่บ้านทั้งหน้าบ้าน ข้างบ้าน หลังบ้าน และใต้บ้านได้จริงหรือไม่ มีการจัดการระบายน้ำและวางท่อของกำแพงกันดินหรือไม่
2. ขอให้หยุดสร้างปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเสียง และฝุ่น เพราะมีผลเสียระยะยาวต่อสุขภาพ ไม่ได้พักผ่อนและต้องเสียสุขภาพจิตกับการผ่อนบ้านในราคาสูงแต่ไม่มีความสุขเพราะเจ้าของที่ดินไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่ต้องมีการจัดการป้องกันความเดือดร้อนรำคาญจากการถมดินเกินกว่าบริเวณพื้นที่ข้างเคียงอันเป็นชุมชนที่อาศัยมาก่อนเป็นระยะเวลานานถึง 10 ปี
3. ระหว่างการก่อสร้างมีรถบดอัด การใช้รถใหญ่ขนดิน เหยียบดิน การขุดเจาะ และยังมีการก่อสร้างเพิ่มมากขึ้น และใช้ระยะเวลาอีกยาวนานขอให้ตรวจสอบโครงการทั้งหมดของ (((นางศ. ))) ว่ามีการดำเนินการก่อสร้างตามกฎหมายว่าด้วยเรื่องการป้องกันไม่ให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญกรณีก่อสร้างและถมที่ดินที่สูงกว่าพื้นที่ข้างเคียงหรือไม่ เพราะไม่เคยเห็นการป้องกันเสียง ฝุ่น เศษวัสดุ ของโครงการก่อสร้างนี้เลยจึงก่อให้เกิดปัญหามาตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี
4. ขอให้หยุดการดำเนินการก่อสร้างทั้งหมดจนกว่าปัญหาทุกข้อจะได้รับการแก้ไข เยียวยา และดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตามคำร้องทุกข์ของชาวบ้านหมู่บ้านซอยครัวภักดี”
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามทางเจ้าหน้าที่เทศบาลเบื้องต้นทราบว่า การขออนุญาต ถูกต้อง และไม่ได้ผิดระเบียบใดๆ เนื่องจากกฏหมายไม่ได้ห้ามถึงในความสูงของกำแพง ก็เป็นเรื่องข้อกฎหมาย แต่เรื่องทางจิตใจก็ต้องมาร่วมพูดคุยกัน เพราะชาวบ้านที่มีบ้านอยู่แนวกำแพงสูง หวั่นเรื่องความไม่ปลอดภัย โดยในช่วงบ่ายวันนี้ทางคณะกรรมการ โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธาน ได้เชิญชาวบ้านที่เดือดร้อนไปร่วมเจรจาหาทางออกในเรื่องนี้ต่อไป
ทีมข่าวกาญจนบุรี