ความคืบหน้ากรณี สื่อมวลชนได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่เจ้าของที่ดินแปลงข้างเคียงถมที่พร้อมสร้างกำแพงสูงมิดหลังคาบ้าน รวม 8 หลัง เหตุเกิดบริเวณซอยด้านข้างร้านอาหารครัวภักดี ท้องหมู่ 1 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี สำหรับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนทั้ง 8 ครัวเรือนนั้น ประกอบด้วย
ครอบครัว ร.ต.สมชาย หนองรั้ง เลขที่ 190/74 ครอบครัวนางสาวมธุรส คุ้มประสิทธิ์ เลขที่ 190/98 ครอบครัวนายจตุรงค์ ภิรมยา เลขที่ 190/101 ครอบครัวนางนภิศรา ทองอุปการ เลขที่ 190/95 ครอบครัวนางอิศรานันท์ เขียวสาคร เลขที่ 190/100 ครอบครัวนางสาวฉลวย สัมฤทธิสุทธิ์ เลขที่ 190/83 ครอบครัวนายปราโมท รุ่งหิรัญ เลขที่ 190/82 และครอบครัวนายวชิระ ประกอบ เลขที่ 190/97
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ 4 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบหมายให้ ร้อยตรี พงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานการประชุม เพื่อสรุปประเด็นข้อกฎหมาย ในการนำเข้าที่ประชุมระดับจังหวัดภายในวันพรุ่งนี้ (5 พ.ย.)ที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีนายธนณัฏฐ์ ศรีสันต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี นายวรากร เสือส่าน นายกเทศมนตรีตำบลลาดหญ้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าร่วมประชุม โดยการประชุมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
โดยระหว่างนั้นนายวรากร เสือส่าน นายกเทศมนตรีตำบลลาดหญ้า ได้แจ้งในที่ประชุมให้ทราบว่า เจ้าของที่ดินแปลงที่ถมและสร้างกำแพงมิดหลังคาชาวบ้าน ได้ขอให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ได้ แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปภายในด้วย เมื่อไปถึงมีเจ้าหน้าที่มารอเปิดประตูที่เป็นเหล็กหนาทึบรับคณะของรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีและหน่วยงานทั้งหมด โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการตรวจสอบและพูดคุยกับเจ้าของที่
จากนั้นเวลาประมาณ 15.00 น.ร้อยตรี พงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และคณะได้เดินทางไปสำรวจบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนตั้งแต่ปากซอยจนถึงท้ายซอย พบว่าบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดกับกำแพงประกาศขายจำนวนหลายหลัง และเมื่อไปถึงท้ายซอยได้มีประชาชนทั้ง 8 ครอบครัวที่ได้รับความเดือดร้อนมาคอยให้การต้อนรับ และพูดถึงปัญหาต่างๆให้ร้อยตรีพงศธร ศิริสาคร รอง ผวจ.กาญจนบุรี ทราบถึงความต้องการของผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนดังกล่าว
ทั้งนี้ ร้อยตรีตรี พงศธร ศิริสาคร รอง ผวจ.กาญจนบุรี เปิดเผยภายหลังว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อมาเก็บข้อมูล และได้มีการพูดคุยกุบทางเทศบาลตำบลลาดหญ้า รวมทั้งเจ้าของที่ดินที่ก่อสร้างกำแพง และได้พูดคุยกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั้ง 8 หลัง จากการลงพื้นที่นั้นเราเห็นภาพอยู่แล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือการถมดิน ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติถมดินโดยมีองค์กรส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยงานดูแล และบางส่วนพบเข้าข่ายพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร เราก็จะดูแลตรงนี้ด้วย
ซึงตนได้แจ้งในที่ประชุมให้ทราบว่าขณะนี้เราคุยกันอยู่ใน 2 ส่วนก็คือการดำเนินการทางข้อกฎหมาย ในขณะเดียวกันเราต้องดำเนินการตามข้อเท็จจริง ว่าพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเขาจะอยู่กันได้อย่างไร เพราะถ้าเป็นพวกเราเองมาอยู่ในบ้านสภาพเช่นนี้ก็คงจะอึดอัดอย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้จะดำเนินการทั้งทางนิติศาสตร์ให้ถูกต้อง อะไรที่ผิดอะไรที่ไม่ถูกต้องตามกระบวนการ จะต้องดำเนินการให้ถูกต้อง ประเด็นหนึ่งก็จะเห็นภาพรายละเอียดของกฎหมายโดยเฉพาะเรื่องการถมดินและเรื่องการควบคุมอาคารนั้นมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ
สำหรับรั้วที่เรามองเห็นจะมีอยู่สองส่วนคือส่วนด้านล่างเรียกว่ากำแพงกันดิน ส่วนด้านบนที่ก่อขึ้นไปนั้นเป็นรั้วซึ่งตรงนี้จะต้องไปตรวจสอบว่ามีการขออนุญาตทำกำแพงหรือไม่ และอีกประเด็นที่เห็นก็คือการทำโครงสร้างในลักษณะนี้จะต้องมีระบบการระบายน้ำที่ชัดเจน แต่จากการตรวจสอบในเบื้องต้นยังไม่พบสิ่งนี้
ประเด็นที่ 2 ก็คือพี่น้องอยู่ตรงนี้ก็คงจะรู้สึกอึดอัด เรื่องนี้เราจะต้องหาทางออกให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนกับเจ้าของที่ให้สามารถอยู่ร่วมกันให้ได้ ซึ่งบางฝ่ายอาจจำเป็นจะต้องถอยหลังหนึ่งก้าว อีกฝ่ายจะต้องเดินหน้าหนึ่งก้าว โดยในวันพรุ่งนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะต้องได้ข้อยุติ และจะต้องมีข้อสั่งการที่ชัดเจนว่าจะต้องทำอย่างไร โดยใครและภายในระยะเวลาเท่าไหร่
ทีมข่าวกาญจนบุรี