ปตท.สผ. พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตก๊าซฯ จากแหล่งบงกชอย่างต่อเนื่อง เร่งขุดเจาะเพิ่ม 125-250 ล้าน ลบ.ฟุต/วัน ทดแทนแหล่งเอราวัณที่ยังเข้าพื้นที่ไม่ได้
นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ.เปิดเผยว่า หลังกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน และ ปตท.สผ. ในฐานะผู้ดำเนินการสัมปทานแหล่งบงกชปัจจุบัน ได้ลงนามในข้อตกลงการส่งมอบสิ่งติดตั้งในแหล่งก๊าซธรรมชาติบงกช (Asset Transfer Agreement หรือ ATA) ส่งผลให้ ปตท.สผ. สามารถวางแผนการพัฒนาแหล่งบงกชและบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รักษาความต่อเนื่องในการผลิตก๊าซธรรมชาติ เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านสัญญาสัมปทานปิโตรเลียมที่กำลังจะหมดอายุลง ไปสู่สัญญาแบ่งปันผลผลิตที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ดำเนินไปอย่างราบรื่นและเป็นประโยชน์สูงสุดกับประเทศ
“ขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจาะหลุมผลิตในแหล่งบงกชเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถเพิ่มผลิตก๊าซฯ ขึ้นได้อีกประมาณ 125 – 250 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในช่วงเดือนเมษายน 2565 ถึงเดือนธันวาคม 2566 ส่งผลให้แหล่งบงกชสามารถรักษาระดับการผลิตก๊าซฯได้ที่ 870 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันตลอดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ช่วยรองรับความต้องการใช้พลังงานและเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศในระหว่างที่แหล่งเอราวัณภายใต้สัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง G1/61 ยังไม่พร้อมผลิตก๊าซฯ ในอัตรา 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันได้ทันทีเมื่อสัมปทานหมดอายุ เนื่องจาก ปตท.สผ. ไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้รับสัมปทานปัจจุบันให้เข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการล่วงหน้าในแปลง G1/61 ในช่วงเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน”
สำหรับการดำเนินการส่งมอบสิ่งติดตั้งต่างๆ นั้น ประกอบด้วย แท่นอุปกรณ์การผลิตต่างๆ และแท่นที่พักอาศัย รวม 9 แท่น แท่นหลุมผลิต 56 แท่น และสิ่งติดตั้งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการผลิตก๊าซฯ เช่น เรือเก็บน้ำมัน จะมอบให้แก่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ณ วันสัมปทานหมดอายุ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาและผลิตปิโตรเลียมภายใต้สัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง G2/61 ต่อไป
ส่วนแท่นหลุมผลิตในโครงการบงกชที่รัฐไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ต่อ มีจำนวนทั้งหมด 4 แท่น รวมถึง ท่อส่งก๊าซฯ ซึ่งเชื่อมกับแท่นดังกล่าว ปตท.สผ. จะดำเนินการรื้อถอนตามขั้นตอนต่อไป
อย่างไรก็ตาม สัญญาสัมปทานแหล่งบงกช ประกอบด้วย แปลงสำรวจหมายเลข B15 B16 และ B17 โดย แปลง B15 จะหมดอายุในวันที่ 23 เมษายน 2565 โดยจะเข้าสู่สัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง G2/61 ในวันที่ 24 เมษายน 2565 และ แปลง B16 และแปลง B17 จะหมดอายุในวันที่ 7 มีนาคม 2566 โดยจะเข้าสู่สัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง G2/61 ในวันที่ 8 มีนาคม 2566
ขณะที่สัญญาสัมปทานแหล่งเอราวัณ จะหมดอายุในวันที่ 23 เมษายน 2565 โดยจะเข้าสู่สัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง G1/61 ในวันที่ 24 เมษายน 2565