ที่ห้องประชุมโรงแรมแกรนด์แมนดาริน อำเภอเบตง จังหวัดยะลา นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่นและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมการขับเคลื่อนแผนเปิดเมืองเบตง พร้อมติดตามนโยบายสำคัญเร่งด่วนในพื้นที่อำเภอเบตง

นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้อำเภอเมืองยะลา ฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ อำเภอเบตงฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหากประชาชนรับวัคซีน เป็นไปตามแผนที่ทางจังหวัดกำหนด ก็จะมีการเสนอที่ประชุม ศบค. ส่วนหน้า เตรียมแผนเปิดเมืองเบตงต่อไป พยายามเปิดเมืองเบตงให้ได้ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่เริ่มดีขึ้น ยอดผู้ป่วยลดลง พร้อมมั่นใจว่าปีใหม่นี้จะครอบคลุมทุกอำเภอ จะเปิดจังหวัดยะลาได้ และหลุดออกจากจังหวัดในกลุ่มสีแดงในเร็ววัน จากนั้นจังหวัดยะลาพร้อมที่จะรับนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ ที่จะเดินทางมาเที่ยวจะมาอำเภอเบตง เนื่องจากขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในพื้นที่อย่าง skywalk อัยเยอร์เวง บ่อน้ำร้อน อุโมงค์ปิยะมิตร สวนหมื่นบุปผา สวนไม้ดอกเมืองหนาว อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์อุโมงค์รถยนต์ ทุกแห่งได้เตรียมความพร้อม ปรับภูมิทัศน์ รองรับนักท่องเที่ยวแล้วก่อนเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้จะมาถึงนี้ ภายใต้มาตรการป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ covid-19

ส่วนในเรื่องของความคืบหน้าของการเปิดใช้สนามบินเบตงซึ่งสนามบินใหม่แห่งที่ 29 ของ กรมท่าอากาศยาน(ทย.) กระทรวงคมนาคมนั้น ขณะนี้ได้ผ่านการตรวจสอบความพร้อมจากคณะกรรมการแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เหลือแต่เพียงการออกใบรับรองการดําเนินงานสนามบินสาธารณะเท่านั้น ก็จะเปิดให้บริการเป็นทางการได้ โดยสารการบินนกแอร์ และสายการบินบางกอกแอร์เวย์ได้แสดงความสนใจทำการบิน โดยใช้เครื่องบินในพัดลำใหม่ Q 400 และ ATR-72 ทำการบิน ซึ่งสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 86 ที่นั่ง และ 70 ที่นั่ง ซึ่งทางจังหวัดจะเร่งติดตามเรื่องการออกใบรับรองโดยด่วน

นายนรินทร์ เรืองวงศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตง กล่าวว่า ทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตง ได้ร่วมหารือกับผู้ประกอบการโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และผู้ประกอบการท่องเที่ยวเมืองเบตง หลังได้รับผลกระทบโดยตรงจาก COVID-19 อย่างหนักมาตั้งแต่ต้นปีที่เริ่มมีการระบาดแพร่กระจาย และห้ามการเดินทางท่องเที่ยว คนไม่เดินทาง คนไม่เข้าพัก ผู้ประกอบกิจการรายย่อยปิดกิจการ ผู้ประกอบการโรงแรมต้องแบกภาระต้นทุนของกิจการหลายล้านบาท จำนวนการเข้าพักลดลง ขาดรายได้มาตั้งแต่ปิดประเทศ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลักคือนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ และนักท่องเที่ยวชาวไทยบางส่วน   ทำให้ภาคเอกชนในพื้นที่ มีความเห็นตรงกันในการสนองตอบนโยบายของภาครัฐที่ต้องการกระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยว ตามโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการทัวร์เที่ยวไทย ในช่วง 1 ตุลาคม 2564 ถึง 31 มกราคม 2565 ประกอบกับภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและร้านอาหารในเบตง ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มาเป็นเวลานาน จึงมีข้อสรุปในการเสนอขอเปิดเมืองพร้อมแนวทาง 5 ข้อดังนี้ 1.ขอเปิดสถานที่ท่องเที่ยวในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 2.ให้มีการจัดทำแผนมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวโดยยึดหลักเกณฑ์ควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด 3.ทุกสถานประกอบการต้องได้รับมาตรฐานสุขอนามัย SHA 4.จัดเส้นทางการท่องเที่ยวปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดโรค 5.ผู้ประกอบการช่วยรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งหากมีการเปิดเมืองเบตงให้ทันช่วงเทศกาลปีใหม่ คาดว่าจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท

ด้านนายพฤกษ์ วงศ์นามโรจน์ ประธานชมรมโรงแรมอำเภอเบตง กล่าวว่า โรงแรมในอำเภอเบตง มี 28 แห่ง มีห้องพัก 1,773 ห้องพัก ได้รับเครื่องหมายมาตรฐานสุขอนามัย SHA แล้ว 26 แห่ง อีก 2 แห่ง กำลังดำเนินการ ส่วนผู้บริหารและพนักงานทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็ม 100 % และมีการตรวจ ATK ผู้บริหารและพนักงานสัปดาห์ละครั้ง โรงแรมแต่ละแห่งได้จัดพนักงานทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สัมผัสบ่อยๆทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้มีการโทรมาจองห้องพักกันแล้วหากมีการเปิดเมืองเบตงในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้