นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Watana Muangsook" ตั้งข้อสังเกตการขยายสัญญาให้กับเอกชนของรัฐบาล ว่า "ดันทุรัง" เป็นคำวิเศษณ์ ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 แปลว่า "ดื้อดึงไม่ยอมแพ้ ดื้อดึงไม่เข้าเรื่อง" อันเป็นพฤติกรรมของรัฐบาลที่หลีกเลี่ยงกฎหมายร่วมทุน ขยายอายุสัญญาและอนุมัติให้เอ็น ซี ซี เป็นผู้ลงทุนก่อสร้างศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์หลังใหม่ โดยไม่มีการแข่งขัน พร้อมอธิบายว่า เหตุผลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและอธิบดีกรมธนารักษ์ ในการชี้แจงนั้น เป็นคำแก้ตัวที่รับฟังไม่ขึ้น เพราะการที่เอกชนก่อสร้างโรงแรมไม่ได้ ติดผังเมืองของ กทม. ทำให้การชำระหนี้รายนี้ตกเป็นพ้นวิสัยโดยไม่ใช่ความผิดของใครทั้งสิ้น เอกชนจึงไม่สามารถฟ้องกรมธนารักษ์ได้ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 14493/2557 ความเสี่ยงที่กังวลจึงไม่มีฐานทางกฎหมายรองรับ, ข้อเสนอที่จะลงทุนตามโครงการเดิมจึงสิ้นสุดลงโดยไม่ต้องยกเลิกสัญญา เพราะตกเป็นพ้นวิสัย การลงทุนครั้งนี้จึงเป็นการลงทุนใหม่เพื่อก่อสร้างศูนย์ประชุมหลังใหม่แทนของเดิมที่จะถูกรื้อทิ้ง ซึ่งจะต้องยื่นแบบและขออนุญาตก่อสร้างใหม่ทั้งหมด, ที่กฤษฎีกาและอัยการสูงสุดตอบว่าการแก้ไขสัญญาทำได้หากไม่ทำให้รัฐเสียประโยชน์ก็ถูกต้องแล้ว แต่จะต้องอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมาย เรื่องนี้อยู่ภายใต้บังคับของ พระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ซึ่ง กรมธนารักษ์ จะต้องออกประกาศเชิญชวนให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน ส่วนการคัดเลือกจะ ไม่ใช้วิธีประมูลก็เป็นขั้นตอนภายหลังจากมีการประกาศเชิญชวนแล้ว และหากมั่นใจว่าเอกชนรายนี้เสนอประโยชน์สูงสุดให้รัฐแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะไม่ว่าจะเปิดให้มีการแข่งขันอีกกี่รอบเอกชนรายนี้ก็ต้องชนะอยู่ดี ที่สำคัญคือระยะเวลาตามสัญญาเดิมยังเหลืออยู่อีกหลายปี จึงมีเวลามากพอที่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้องและโปร่งใสเพื่อรักษาประโยชน์ของรัฐ แล้วจะรีบดันทุรังหาเรื่องเลี่ยงบาลีไปเพื่อใคร