นายชัยยงค์ พัวพงศกร ผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) เปิดเผยกรณีตรวจสอบการรับสินบนจัดซื้อสายไฟฟ้าจากบริษัท เจเนอรัล เคเบิล จำกัด ของสหรัฐอเมริกา ระหว่างปี 2555-2556 ว่า กฟน.จะสรุปผลการตรวจสอบทั้งหมดได้เสร็จสิ้นในวันที่ 20 ก.พ. 2560 เพื่อเสนอคณะกรรมการ(บอร์ด)กฟน. โดยหากพบผู้เกี่ยวข้องรับสินบนจริงก็จะดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายทันที แต่ถ้าไม่พบว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตทาง กฟน.จะชี้แจงให้ประชาชนทราบต่อไป
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นในสัปดาห์หน้า ทาง กฟน.จะได้ข้อสรุปเหตุการณ์การจัดซื้อจัดจ้างสายไฟฟ้าในช่วงปี 2555-2556 จากคณะกรรมการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างที่ กฟน.ตั้งขึ้นตั้งแต่ 24 ม.ค. 2560 ที่ผ่านมา โดยจะทราบว่าการจัดซื้อดังกล่าวมีระเบียบขั้นตอนอะไรมารองรับ รวมถึงวงเงินและปริมาณการจัดซื้อว่ามีมากเพียงใด เพื่อนำไปรวบรวมเป็นผลสรุปเสนอบอร์ด กฟน.ด้วย
นายชัยยงค์ กล่าวว่า สำหรับโครงการจัดซื้อสายไฟฟ้าของบริษัท เจเนอรัล เคเบิล จำกัด จากสหรัฐฯ ระหว่างปี 2555-2556 เป็นระบบการประมูลแข่งขันทางอิเล็กทรอนิกส์(อีอ๊อคชั่น) และช่วงนั้นก็มีการตั้งกรรมการครบ 4 ชุด สำหรับการประมูลจัดซื้อ ได้แก่ คณะกรรมการตรวจสอบด้านเงื่อนไขการประมูล(TOR) คณะกรรมการตรวจสอบราคากลาง คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง และคณะกรรมการตรวจรับงาน ซึ่งกรรมการในแต่ละชุดจะไม่ซ้ำซ้อนกัน และไม่สามารถเป็นกรรมการในชุดตรวจสอบอื่นได้
ส่วนการซื้อสายไฟฟ้าปกติจะมีการซื้อใน 2 แบบ คือ 1.การซื้อทองแดงแล้วนำมาจ้างบริษัทผลิตเป็นสายไฟฟ้า และ 2.การซื้อสายไฟฟ้าสำเร็จรูป โดยส่วนใหญ่ กฟน.จะใช้วิธีซื้อทองแดงแล้วจ้างผลิตเป็นสายไฟฟ้า แต่ก็มีการจัดซื้อสายไฟฟ้าสำเร็จรูปอยู่บ้างเล็กน้อย เพียง 1ใน 4 ของสายไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งตามปกติวงเงินการจัดซื้อสายไฟฟ้าของ กฟน.จะอยู่ประมาณ 500-600 ล้านบาทต่อปี
"กฟน.ยึดนโยบายการบริหารงานด้วยความสุจริต โปร่งใส มาโดยตลอด โดยมีการจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรม รับเรื่องร้องเรียนการทุจริตไว้ที่สำนักงานใหญ่ กฟน.ด้วย พร้อมกันนี้ในการประมูลได้เร่ิมนำระบบข้อตกลงคุณธรรมมาใช้แล้ว ส่วนกรณีการสืบสวนการรับสินบนดังกล่าว ทาง กฟผ.จะนำมาเป็นบทเรียนเพื่อพัฒนาการประมูลให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรมให้มากขึ้น "