ทั้งนี้ การสัมมนาดังกล่าว จัดขึ้นภายใต้มาตรการควบคุมการระบาดอย่างเคร่งครัด โดยได้มีการหารือกับกรุงเทพมหานคร และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เพื่อให้เป็นงานตัวอย่าง หลังการผ่อนคลายการเปิดประเทศ โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์ รวมแล้วกว่า 1,000 ราย ประกอบด้วย คณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัด กลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และทูตพาณิชย์ของกระทรวงพาณิชย์ นอกจากนั้น ยังเปิดโอกาสให้สมาชิกและประชาชนทั่วไปได้เข้าฟังการบรรยายของรัฐมนตรีท่านต่าง ๆ สดไปพร้อมกัน ผ่าน facebook live ได้ที่ เพจ Thaichamber
การสัมมนาในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีหลายท่านมาร่วมปาฐกถาพิเศษ อาทิ การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนท่ามกลางความท้าทาย (BCG และ พลังงาน) โดยรองนายกฯ สุพัฒนพงษ์ การเชื่อมโยงธุรกิจไทยกับต่างประเทศด้วยแนวทางการค้ายุคใหม่ จากรองนายกฯ จุรินทร์ ประเทศไทยกับการฟื้นตัวหลังโควิด–19 โดย รมว.คลัง เป็นต้น ซึ่งทุกหัวข้อในการสัมมนา ผู้เข้าร่วมทุกท่านจะได้ทราบ Highlight ที่สำคัญ ๆ รวมไปถึงการ Design The Future ที่จะเป็นการออกแบบอนาคตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย
“หอการค้าไทยคาดหวังว่าผลที่ได้จากการสัมมนานี้ จะเป็นแรงที่จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นตัวจุดประกายให้กับทุกภาคส่วนได้มีส่วนในการสร้างความร่วมมือให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ทั้งในด้านสินค้าและการบริการ เกิดการกระจายรายได้ และยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับท้องถิ่นในทุกจังหวัด ได้เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ จะเห็นว่าการเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมมากขึ้นเป็นลำดับ”
อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายและโอกาสอีกมากที่รอเราอยู่ในปีหน้า เนื่องจากบริบทของโลกหลายอย่างได้เปลี่ยนไปจากเดิม อาทิ การเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี แนวโน้มของโลกที่ให้ความสำคัญกับ BCG (Bio Circular Green) ใขณะเดียวกัน ก็ยังมีโอกาสที่สำคัญ เช่น การเป็นเจ้าภาพเอเปคในปีหน้า การเชื่อมรถไฟลาว-จีน ซึ่งเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการขยายการค้าไปสู่ระดับสากลได้มากขึ้น ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ “ต้องร่วมมือกัน” เพื่อให้เกิดความพร้อม สำหรับโอกาสที่กำลังจะกลับมา
การประชุมในครั้งนี้ จะมีการระดมสมองและจัดทำข้อเสนอแนะมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ โดยรวบรวมเป็นสมุดปกขาว เสนอให้กับนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป ซึ่งท่านนายกฯ จะมารับสมุดปกขาวด้วยตนเองในวันพรุ่งนี้ (21 พ.ย.) พร้อมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “จับมือ รวมใจ พาไทยรอด” ให้กับผู้เข้าร่วมประชุมต่อไป