นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า น่าเศร้าตรงที่ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่มี ส.ว.จากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารที่มีอำนาจในทางนิติบัญญัติล้นเหลือ แต่เชื่อมั่นว่าพลังของประชาชนและพรรคการเมืองซึ่งมีที่มาจากประชาชนจะช่วยเปลี่ยนแปลงประเทศได้ แม้ผิดหวังแต่จะไม่หมดหวัง เพราะพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าเตรียมขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 โดยเร็ว เพื่อเปิดโปงถึงความไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถในการบริหารบ้านเมืองของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ส่วนกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส. บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ? (พปชร.) ระบุว่าการที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับภาคประชาชนเพื่อหวังหาเสียงนั้นถือเป็นความคิดที่คับแคบ ไม่มีประชาชนอยู่ในหัวใจ นายไพบูลย์คงหลงระเริงและเคยชินกับการปกครองที่ใช้อำนาจรัฐมากเกินไปโดยไม่มีใจเป็นธรรม ทำตัวอยู่เหนือประชาชน ไม่เคยสนใจสาเหตุแห่งความทุกข์ยากของประชาชนที่เกิดจากผลพวงของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ซึ่งเป็นเนื้อแท้ของเผด็จการ เครือข่ายอำนาจและผลประโยชน์
“ความพยายามของภาคประชาชนในครั้งนี้ไม่สูญเปล่า เพราะถือว่าได้กระชากหน้ากาก ส.ว. กับพรรคร่วมรัฐบาลให้ออกมาเปลือยกายเผยให้เห็นตัวตนที่แท้จริงที่เป็นอุปสรรคต่อประเทศได้เป็นอย่างดี ตอกย้ำว่าใครที่มาจากประชาชน และใครกันแน่ที่มาจากเงาของเผด็จการ” นางสาวธีรรัตน์กล่าว