กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (22 พ.ย.64) ว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ แล้วช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.กาญจนบุรี 61 มิลลิเมตร , กรุงเทพมหานคร 59 มิลลิเมตร และสตูล 57 มิลลิเมตร ภาพรวมปริมาณน้ำใช้การแหล่งน้ำทั้งประเทศทุกขนาด 39,182 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 68 และแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 31,597 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 66 จุดเฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 6 แห่ง คือ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนแม่งัด เขื่อนภูมิพล อ่างเก็บน้ำแม่จาง เขื่อนบางลาง และเขื่อนสิริกิติ์ ส่วนคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคและการเกษตร ณ จุดเฝ้าระวังในแม่น้ำสายหลัก แม่น้ำเจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง บางปะกงมีค่าความเค็มอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนปริมาณออกซิเจนละลายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและบางปะกงต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน พร้อมเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงจนถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน อาจส่งผลให้ระดับน้ำเอ่อท่วมบริเวณที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ยังได้ติดตามสถานการณ์น้ำและการช่วยเหลือสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา–ท่าจีน โดยเร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระบายน้ำส่วนเกินออกจากพื้นที่ พร้อมบริหารจัดการน้ำเพื่อเก็บกักน้ำใช้หน้าแล้ง ซึ่งกรมชลประทานได้ดำเนินการในพื้นที่ลุ่มน้ำท่าจีน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลต่อเนื่อง // ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 413 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 143 เครื่อง เร่งระบายน้ำออกสู่แม่น้ำสายหลักและทะเลอ่าวไทยตามลำดับ ปัจจุบันสามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำทั้ง 11 ทุ่งรวม 1,335 ล้านลูกบาศก์เมตร จะคงเหลือปริมาณน้ำเพื่อการเกษตรเพาะปลูกพืชหน้าแล้ง โดยมีปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักในลุ่มน้ำเจ้าพระยา คือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ รวม 14,837 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 60 ของความจุอ่างเก็บน้ำ มีปริมาณน้ำใช้การประมาณ 8,141 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 45