กระทรวงอุตสาหกรรมเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์สมัยใหม่หลังพบช่วง 9 เดือน การส่งออกเครื่องมือแพทย์ โตร้อยละ 125.7 คาดทั้งปี แตะร้อยละ 150 ชี้การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี IoT, 5G, AI รวมถึงนวัตกรรมสู่สังคมดิจิทัล และการแพร่ระบาด COVID-19 เป็นปัจจัยหนุน Digital Healthcare โตเร็ว พร้อมรองรับ Smart Hospital ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องมือแพทย์ในอาเซียน ในปี 2570
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และบริการการแพทย์ครบวงจรเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต (S-Curve) ที่รัฐบาลมุ่งเน้นในการเป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต (New Engine of Growth ) โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์มีอัตราการส่งออกเติบโตร้อยละ 125.7 หรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2563 มูลค่า 76,529.32 ล้านบาท และทั้งปี 2564 คาดว่าอุตสาหกรรมนี้จะมีการเติบโตจากการส่งออกอยู่ที่ร้อยละ 150 หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 152,245-ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ได้เข้ามามีบทบาทในวงการแพทย์ รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 และการที่สังคมไทยได้เข้าสู่สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์แบบ หรือ Complete-Aged-Society ในปี 2564 จึงมีส่วนสำคัญที่ทำให้ความต้องการสินค้าและเครื่องมือแพทย์เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้รัฐบาลโดยกระทรวงอุตสาหกรรม จึงเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) เพื่อเป็นปัจจัยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และสุขภาพของไทยมีความโดดเด่น มีศักยภาพในการแข่งขันในเวทีโลก และยังเป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ความมั่นคงทางด้านสุขภาพของประชาชน ตอบโจทย์ Digital Healthcare ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เร่งดำเนินการจัดทำแผนแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ คาดว่าจะสามารถนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาเร็วๆนี้
นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า สศอ.ซึ่งเป็นหน่วยงานจัดทำนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อเพิ่ม ขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย กำลังเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการส่งเสริมการเป็น Smart Hospital-ของประเทศไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำร่างแผนปฏิบัติการที่จะมาช่วยสนับสนุนการดำเนินงานดังกล่าว ได้แก่ 1.ร่างแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ที่มุ่งเน้น ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องมือแพทย์ในอาเซียน ภายในปี 2570 โดยจะพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของไทยให้มีความสามารถในการแข่งขัน สร้างความมั่นคงภายในประเทศ ยกระดับเทคโนโลยีและสร้างนวัตกรรม คุณภาพและมาตรฐานเครื่องมือแพทย์ในระดับสากล ซึ่งจากการศึกษาปัจจัยขับเคลื่อนหลัก ได้แก่ การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและการแพร่ระบาดของโรคระบาดสายพันธุ์ใหม่ รวมไปถึงแนวโน้มทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เช่น IoT,-5G,-AI,-Machine-Learning-ทำให้เกิดแนวโน้มการพัฒนาเครื่องมือแพทย์เพื่อตอบสนองตลาดและเทคโนโลยีเป้าหมายในดังกล่าว เช่น การรักษาแบบ Telemedicine หรือ Telehealth ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์กลุ่มนี้ มีศักยภาพที่จะได้รับการพัฒนาและส่งเสริมให้เกิดการผลิตเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ซึ่งจะตอบสนองต่อการเป็น Smart Hospital และเป้าหมายการเป็น Medical Hub ของประเทศไทยในที่สุด
2.ร่างแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ มุ่งส่งเสริมให้ ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตอุปกรณ์ และระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะในอาเซียน โดยมีเทคโนโลยีเป็นของตนเองภายในปี 2570 โดยจะยกระดับ Supply-Chain-ของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เดิมไปสู่อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะทั้งระบบผ่าน 3 มาตรการหลักคือ มาตรการที่ 1 ยกระดับศักยภาพการแข่งขัน โดยการสร้างนวัตกรรมและมูลค่าเพิ่มด้วยการดึงดูดการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ส่งเสริมการเชื่อมโยงอุปทานอย่างครบวงจร และส่งเสริมการผลิตด้วยระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาตรการที่ 2 กระตุ้นอุปสงค์เพื่อสร้างตลาดการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ โดยในระยะแรกจะเน้นพัฒนาในกลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่ม คือ Smart Home, Smart Factory, Smart Hospital & Health และ Smart Farm ผ่านการสนับสนุนให้เกิดการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ กระตุ้นการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง และมาตรการที่ 3 สร้างและพัฒนา Ecosystem ของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ทั้งการพัฒนาบุคลากรด้าน Smart Electronics ให้ยกระดับเป็น Smart Developer ที่สามารถออกแบบ จัดหาอุปกรณ์ ติดตั้งและทดลองระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะในกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ในกลุ่ม Smart Hospital ด้วย