นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย กรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธาน เปิดกิจกรรมโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง อบต. (Big Day) ในการรณรงค์เลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2564 นี้ ภายใต้แคมเปญ ทุกเสียงคือพลัง เลือกตั้งสุจริต ใช้สิทธิโปร่งใส โดยมี นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น/ นางนพรัตน์ มงคลางกูร ผู้แทนอธิบดีกรมควบคุมโรค/ พันตำรวจเอก จรุงวิทย์ กุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมทั้งผู้บริหารและพนักงานของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
สำหรับการจัดกิจกรรมโค้งสุดท้าย Big Day ครั้งนี้ นับเป็นกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง พร้อมเน้นย้ำการออกไปใช้สิทธิในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อสร้างความมั่นใจของการเลือกตั้งวิถีใหม่ ปลอดภัยใช้สิทธิ์ โดยการรณรงค์ครั้งนี้ มีการเปิดตัวสปอตประชาสัมพันธ์เชิญชวนไปใช้สิทธิเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล ชุดคนรุ่นใหม่และคลิปวิดีโอสั้น ผ่านแอปพลิเคชัน TikTok โดย นายณัฐพงษ์ หยังหลัง หรือ อานัส ดาว TkTok ยอดผู้ติดตาม 1.6 ล้านคน รวมถึงคลิปวีดีโอประชาสัมพันธ์การออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผ่านการถ่ายทอดสดเฟซบุ๊ก ไลฟ์ (Facebook Live) ทุกเสียงคือพลัง เลือกตั้งสุจริต ใช้สิทธิโปร่งใส
นอกจากการรณรงค์ ในวันนี้แล้ว ยังได้รับความร่วมมือจาก ผู้ว่าราชการจังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด และสาธารณสุขจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รณรงค์แบบรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ (รถแห่) โดยสำนักงานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด และภาคีเครือข่ายร่วมปล่อยรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ เพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกตั้งท้องถิ่น และมีความตื่นตัวในการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 08.00 -17.00 น.
ทั้งนี้ การเลือกตั้งเป็นการเลือก อบต. พร้อมกันทั่วประเทศ ขอให้ประชาชนที่มีสิทธิ์ไปใช้สิทธิของตนเอง และขอให้ทุกคนร่วมสอดส่องการทุจริต และหากประชาชนที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ ให้แจ้งที่อำเภอ เวปไซต์ กกต. หรือ ทางไปรษณีย์ ก่อนหรือ หลังการเลือกตั้ง 7 วัน เพื่อไม่ให้ถูกจำกัดสิทธิทางการเมือง ส่วนสถานการณ์โควิดขณะนี้ กกต. ได้ป้องกันด้วยการลดจำนวนผู้ใช้สิทธิในแต่ละหน่วยให้เหลือ 600 คน จาก 1,000 คน เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด และจะมีการวัดอุณหภูมิ ผู้มาใช้สิทธิที่หน้าหน่วย เลือดตั้งด้วย