นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากการปรับราคาก๊าซหุงต้ม ภาคครัวเรือนทั่วประเทศ กิโลกรัมละ 0.67 บาท เป็นกิโลกรัมละ 20.96 บาท จากเดิม 20.29 บาท ตามราคาตลาดโลก ตามนโยบายของกระทรวงพลังงาน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไป จะมีผลทำให้ราคาจำหน่ายปลีกก๊าซหุงต้มขนาด 15 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นถังละ 10 บาท เป็นถังละ 350 บาทจากเดิม 340 บาท ซึ่งเป็นราคารวมค่าบริการขนส่งถึงสถานที่ของผู้ซื้อที่มีระยะทางขนส่งในรัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตร แต่ไม่รวมค่าบริการขนส่งขึ้นบนอาคารสูง ประมาณถังละ 30 –35 บาท ซึ่งราคาจำหน่ายปลีกก๊าซหุงต้ม มีราคาสูงสุดในเดือนมกราคม 2558 ที่กิโลกรัมละ 24.16 บาท หรือถังขนาด 15 กิโลกรัม 395 บาท หลังจากนั้นในปี 2558 – ถึงมกราคม 2560 ได้ปรับราคาลดลง 3 ครั้ง รวมกิโลกรัมละ 3.87 บาท หรือถังขนาด 15 กิโลกรัมลดลง 55 บาท เหลือปัจจุบันถังละ 340 บาท
กรมการค้าภายในได้ศึกษาผลกระทบจากการปรับราคาก๊าซหุงต้ม พบว่า อาหารปรุงสำเร็จ (ร้านก๋วยเตี๋ยว/ร้านอาหารตามสั่ง) ปริมาณการใช้ถัง 15 กิโลกรัม/ 250 - 300 จาน มีผลกระทบต่ออาหาร ปรุงสำเร็จน้อยมาก ภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพียง 4 สตางค์/ชาม/จาน เท่านั้น นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังคงดำเนินโครงการช่วยเหลือร้านอาหาร หาบเร่แผงลอย ตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบัน โดยให้ร้านค้าอาหาร หาบเร่แผงลอย จำนวนประมาณ 400,000 ร้านค้าทั่วประเทศ ได้รับสิทธิซื้อก๊าซราคาเดิมขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัม ถังละ 305 บาท จำนวนไม่เกิน 150 กิโลกรัม/เดือน หรือ 10 ถัง/เดือน ดังนั้นผู้ประกอบการอาหารปรุงสำเร็จจึงไม่มีเหตุผลที่จะปรับราคาอาหารปรุงสำเร็จเพิ่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายได้กำหนดแนวทางในการกำกับดูแล โดยได้ออกประกาศราคาจำหน่ายปลีกแนะนำก๊าซปิโตรเลียมเหลวบรรจุถัง (ก๊าซหุงต้ม) ขนาด 15 กิโลกรัม ในเขตกรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ในราคาไม่เกินถังละ 350 บาท และได้ทำหนังสือแจ้งผู้ค้าก๊าซ LPG และสมาคมแก็สปิโตรเลียมเหลวให้ปรับราคาจำหน่ายสอดคล้องกับที่กระทรวงพลังงานกำหนด รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ออกติดตามและตรวจสอบร้านค้าปลีกก๊าซหุงต้มให้จำหน่ายในราคาที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง และให้ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายให้ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการฉวยโอกาสจำหน่ายในราคาสูงเกินสมควร หากพบว่ามีร้านค้าก๊าซรายใดจำหน่ายก๊าซหุงต้มบรรจุถังในราคาสูงเกินสมควร จะดำเนินการตามกฎหมาย ตามมาตรา 29 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า หากประชาชนพบเห็นการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าหรือ ไม่ปิดป้ายแสดงราคา สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ทั่วประเทศ กรมจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายทันที