กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (26 พ.ย.64) ว่า มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล แล้วช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี 179 มิลลิเมตร , ชุมพร 1135 มิลลิเมตร และนครศรีธรรมราช 173 มิลลิเมตร โดยมีพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก-ดินถล่ม ช่วง 1 - 2 วันนี้ บริเวณพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก - ดินถล่ม ช่วง 1-2 วันนี้ บริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎรัธานี นครศรีธรรมราช และระนอง พร้อมเฝ้าระวังการเกิดน้ำปาไหลหลาก บริเวณ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และ นครศรีธรรมราช ภาพรวมปริมาณน้ำใช้การแหล่งน้ำทั้งประเทศทุกขนาด 39,180 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 68 และแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 31,609 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 66 จุดเฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 5 แห่ง คือ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนแม่งัด เขื่อนภูมิพล อ่างเก็บน้ำแม่จาง และเขื่อนสิริกิติ์ ส่วนคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคและการเกษตร ณ จุดเฝ้าระวัง ในแม่น้ำสายหลัก แม่น้ำเจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง บางปะกงมีค่าความเค็มและออกซิเจนละลายน้ำอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคใต้ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ยังได้ติดตามการบริหารจัดการน้ำและสถานการณ์น้ำช่วง 1-2 วันนี้ พร้อมเฝ้าระวังน้ำในอ่างเก็บน้ำพื้นที่คาดจะมีฝนตกหนัก พบภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากและมีน้ำหลากในพื้นที่หลายจังหวัด คือ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และพัทลุง โดยกรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเพชรลงสู่แม่น้ำเพชรบุรีในอัตรา 150 - 180 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมกับใช้ระบบชลประทานในการระบายน้ำเข้าคลองส่งน้ำสายใหญ่ทั้ง 4 สาย ด้วยการรับน้ำเข้าคลองส่งน้ำและคลองระบายน้ำ D.9 รวมในอัตรา 100 - 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักน้ำในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ช่วยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และผลักดันน้ำออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุด เพื่อลดผลกระทบของประชาชนที่อาศัยบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเพชรบุรีให้ได้มากที่สุด