ที่ห้องประชุมสำนักงานการกีฬาและท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา ศูนย์บัญชาเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จ. นครราชสีมา นายชูศักดิ์ ชุนเกาะ รอง ผวจ.นครราชสีมา ในฐานะรองประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาพร้อมแพทย์หญิงอารีย์ เชื้อเดช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมาและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน ฐานะคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ร่วมประชุมผ่านเครือข่าย (Web Conference) โปรแกรม ZOOM ระเบียบวาระการดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดต่อในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา การติดตามผลการ ดำเนินงานตามมาตรการและข้อสั่งการของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ
พ.ญ อารีย์ รองนายแพทย์ สสจ.นครราชสีมา ชี้แจงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในพื้นที่ 32 อำเภอ ของ จ.นครราชสีมา พบผู้ป่วยรายใหม่ 101 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 1 ราย และสัมผัสผู้ป่วยในพื้นที่ 100 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 252 ราย ผู้ป่วยในเรือนจำ 2 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 32,538 ราย รักษาหาย 30,856 ราย ยังรักษาอยู่ 1,430 ราย ส่วนสถานการณ์ในเรือนจำกลางนครราชสีมา พบผู้ป่วยรายใหม่ 2 ราย รักษาหาย 1,801 ราย ป่วยสะสม 1,945 ราย และทัณฑสถานหญิง อ.สีคิ้ว ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ รักษาหาย 484 ราย ป่วยสะสม 506 ราย รวมทั้ง 2 แห่ง ป่วยสะสม 2,451 ราย
ทั้งนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาได้มีแนวทางปฏิบัติกรณีผู้มีเหตุอันควรสงสัยเป็นโรคหรือผู้สัมผัสโรคและสั่งให้แยกกัก กักกันหรือถูกคุมไว้ ขอไปใช้สิทธิเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 243 แห่ง ในวันที่ 28 พ.ย นี้ กรณีผู้ป่วยต้องอยู่ในสถานพยาบาลหรือสถานที่กักตัวห้ามออกมานอกพื้นที่ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงหรือพ้นระยะการกักตัวต้องกรอกบันทึกเอกสารขออนุญาตออกนอกพื้นที่ชั่วคราว ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคด้วย การเดินทางใช้ยานพาหนะส่วนตัว เมื่อมาถึงหน่วยเลือกตั้งต้องผ่านการตรวจ ATK โดยบุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่เท่านั้นและผลต้องเป็นลบและไม่มีอาการเจ็บป่วยเกี่ยวข้องกับโรค โดยถูกคุมไว้สังเกตคูหาเลือกตั้งเพียงสถานที่เดียว ห้ามมิให้ออกนอกเส้นทางโดยเด็ดขาด รักษาระยะห่างจากผู้อื่นประมาณ 2 เมตร และให้แจ้งต่อกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเป็นผู้ที่อยู่ระหว่างแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกต ตามคำสั่งของพนักงานควบคุมโรคติดต่อและให้เข้าในไปช่องทางที่หน่วยเลือกตั้งได้กำหนดไว้เป็นการเฉพาะ เมื่อดำเนินการตามกระบนการขั้นตอนการเลือกตั้งจนเสร็จสิ้นภารกิจแล้วให้เดินทางกลับสถานที่แยกกักกักกันหรือคุมไว้สังเกตโดยทันที หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานโรคติดต่อ อัตราโทษตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 51 ห้ามผู้ใดกระทำการซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะอาจเป็นเหตุให้โรคโควิด-19 แพร่ออกไป ระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท