นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า โครงการบ้านเคหะสุขประชาเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบางได้มีที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่อาศัย มีอาชีพใหม่ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตามเจตนารมณ์ของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ต้องการให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้เช่าบ้านพร้อมอาชีพ ยกระดับรายได้ 40,000 บาท/ครอบครัว เพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านที่อยู่อาศัย ทำให้ประชาชนมีความหวัง มีอาชีพ และ มีรายได้ที่มั่นคง
โดยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 คณะรัฐมนตรีมีมติให้การเคหะแห่งชาติจัดทำโครงการบ้านเคหะสุขประชา ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นำเสนอ มีเป้าหมายสร้างบ้าน จำนวน 100,000 หน่วย ภายในระยะเวลา 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2564 – 2568 สร้างปีละ 20,000 หน่วย รวมทั้งนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาพัฒนาอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับผู้อยู่อาศัย ซึ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการพัฒนาโครงการของแต่ละพื้นที่
สำหรับ 6 อาชีพในโครงการ ได้แก่ เกษตรอินทรีย์ ปศุสัตว์ อาชีพบริการชุมชนและชุมชนข้างเคียง ตลาด อุตสาหกรรมขนาดเล็ก และศูนย์การค้าปลีก – ส่ง เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน รวมถึงสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนตามภูมิสังคมของพื้นที่นั้น ๆ เริ่มตั้งแต่การผลิตไปจนถึงช่องทางการจัดจำหน่าย
“การเคหะแห่งชาติได้เริ่มสร้างโครงการนำร่องบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง จำนวน 302 หน่วย และได้รับเกียรติจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิด เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา และในวันนี้ท่านนายกรัฐมนตรีจะมามอบบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า จำนวน 270 หน่วย โดยการเคหะแห่งชาติได้จับสลากผู้ได้สิทธิเช่าครบทั้งสองโครงการแล้ว” นายทวีพงษ์ กล่าว
สำหรับรายละเอียดโครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า ตั้งอยู่บริเวณถนนร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ขนาดพื้นที่ 20.26 ไร่ จำนวน 270 หน่วย ประกอบด้วย บ้านแฝดชั้นเดียว 86 หน่วย และบ้านสองชั้น 184 หน่วย โดยแบ่งพื้นที่ใช้สอยตามความเหมาะสมของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งประกอบด้วย 1.กลุ่มคนพิการและผู้สูงอายุ (แบบ X) พื้นที่ใช้สอย 30 ตร.ม. 2.กลุ่มผู้มีสถานะโสด (แบบ A) พื้นที่ใช้สอย 30 ตร.ม. 3.กลุ่มครัวเรือนใหม่ (แบบ B) พื้นที่ใช้สอย 40 ตร.ม. และ 4.กลุ่มครอบครัว (แบบ C) พื้นที่ใช้สอย 50 ตร.ม. อัตราค่าเช่าเริ่มต้น 1,500 – 3,000 บาท/เดือน
ภายในโครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้ายังได้จัดเตรียมพื้นที่ “เศรษฐกิจสุขประชา” ซึ่งจะได้รับการพัฒนาในรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ เพื่อรองรับการจ้างงานและสร้างอาชีพให้กับผู้อยู่อาศัยในชุมชน รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในชุมชนให้เกิดความยั่งยืนต่อไป
นอกจากนี้ การเคหะแห่งชาติได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ให้จัดตั้ง บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) เพื่อมาช่วยให้การดำเนินโครงการบ้านเคหะสุขประชาคล่องตัว และประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น โดยการเคหะแห่งชาติถือหุ้น 49% และผนึกกำลังกับพันธมิตรที่เข้มแข็งและมีความเป็นมืออาชีพถือหุ้น 51%
อาทิ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ให้การสนับสนุนเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทน เพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และการจัดการขยะในชุมชน บริษัท วินโดว์เอเชีย จำกัด เข้ามาสนับสนุนวัสดุก่อสร้าง และบริษัท ทิพยประกันภัยจำกัด (มหาชน) จะเข้ามาดูแลเรื่องการประกันรายได้ของผู้อยู่อาศัยในโครงการ
ทั้งนี้ ในปี พ.ศ.2565 การเคหะแห่งชาติมีแผนก่อสร้างโครงการบ้านเคหะสุขประชาอีก 13 โครงการ จำนวน 3,948 หน่วย ในจังหวัดปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี เชียงใหม่ ระยอง และสระบุรี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบจัดทำโครงการ
และในอนาคตการเคหะแห่งชาติมีแผนจะดำเนินโครงการบ้านเคหะสุขประชาต่อเนื่องอีกกว่า 30,000 หน่วย ในลักษณะร่วมลงทุนกับภาคเอกชน โดยจะร่วมทุนกับบริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่มีมาตรฐานในราคาที่เหมาะสม สามารถรับภาระได้ รวมไปถึงการพัฒนาอาชีพเพื่อก่อให้เกิดรายได้ที่มั่นคงยั่งยืนต่อไป