กระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวการเฝ้าระวังโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ว่า ต้องยอมรับว่าในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามีบางสื่อบอกว่ามีข่าวลือ ซึ่งอาจเกิดความสับสน ตื่นตระหนก ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องออกมาให้ข้อมูล โดยเราติดตามเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ตรวจทุกสัปดาห์ ข้อมูลเมื่อวันที่ 27 พ.ย-3 ธ.ค.64 ตรวจไปเกือบ 800 ตัวอย่าง ยังพบเป็นเดลต้าเกือบ 100% โดยมีอัลฟ่า 1 ราย ไม่พบเบต้า แนวโน้มวันนี้ภาพรวมประเทศคือ เดลต้า 99.87% ขณะที่ ช่วงเปิดประเทศตั้งแต่ 1 พ.ย. เราเฝ้าระวังผู้เดินทางที่มีผลตรวจ RT-PCR เป็นบวก ส่วนใหญ่ยังเดลต้า อัลฟา 1-2 ราย
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า กรมวิทย์ ได้พัฒนาการตรวจหาสายพันธุ์โควิด-19 โอไมครอน ที่มีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่งเป็นลูกผสม ดังนั้น หากตำแหน่ง HV69-70 หายไป แต่ตรวจพบการกลายพันธุ์ที่ K417N ให้สันนิษฐานว่าเป็นโอไมครอน ดังนั้นตัวอย่างที่ส่งมาให้เราตรวจ จากผู้เดินทางระบบไม่กักตัว (Test and go) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เราตรวจพบเบื้องต้นแบบนี้ เราจึงสรุปขณะนั้นว่าอาจจะเป็นโอไมครอน จึงแจ้งกรมควบคุมโรคสอบสวนโรคต่อไป
“หมายความว่าเราไม่ชักช้ารอพิสูจน์ให้ชัด แต่แน่นอนว่าเป็นรายแรกของประเทศ หากเราเจอเท่านี้แล้ว บอกว่าเจอโอไมครอนในไทย หากไปตรวจโฮจีโนม(Whole genomes sequencing) คอนเฟิร์มว่า ไม่ใช่ก็จะยุ่ง เราจึงต้องตรวจเพิ่มเติมว่าเป็นโอไมครอนหรือไม่” นพ.ศุภกิจ กล่าว และว่า ส่วนรายที่บอกว่าเป็นชาวแอฟริกาที่อยู่สถาบันบําราศนราดูร อันนั้นเป็นเดลต้า
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ข้อมูลการถอดรหัสพันธุกรรมผู้เดินทางเข้าประเทศ เพื่อหาสายพันธุ์โอไมครอน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.-4ธ.ค. ตรวจแล้ว 89 ราย ยังเป็นเดลต้าและมีโอกาสเป็นโอไมครอนรายเดียว
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ตัวอย่างที่มีแนวโน้มเป็นโอไมครอน 1 ราย ข้อมูลคือ เป็นชาย ชาวอเมริกัน เดินทางมาจากสเปน เข้าสู่ระบบไม่กักตัว(Test and go) เราพบเบื้องต้นคือ มีตำแหน่งพันธุกรรมที่หายไปเข้าข่ายว่ามีโอกาสเป็นโอไมครอน และยิ่งมีการตรวจในตำแหน่งเพิ่มเติม คือ T478K และ N501Y แม้จะตรวจเบื้องต้นแต่น่าจะเป็นโอไมครอนมากที่เดียว
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า เมื่อเข้าเครื่อง Whole genome sequencing จริงๆ ก็จะทราบผลได้ตั้งแต่เมื่อวาน แต่ด้วยเชื้อที่นำมาอาจจะน้อย เมื่อมาถอดรหัสพันธุกรรมจึงทำให้ยาก ข้อมูลไม่สมบูรณ์ จึงได้ขอตัวอย่างมาใหม่ พบว่า มีเชื้อมากขึ้นในตัว จึงให้ผลเหมือนเดิม
“จากการเก็บตัวอย่างและเครื่องวิเคราะห์พบความเข้ากันได้ที่มีโอกาสเป็นโอไมครอนร้อยละ 99.92 แต่เราจะมีการตรวจเพิ่มเติมครั้งที่ 2 ยืนยันอีกครั้ง และจะมีเครือข่ายแล็บอื่นๆ ช่วยคอนเฟิร์มด้วย แต่เบื้องต้นถือเป็นโอไมครอนรายแรกที่ตรวจพบในประเทศไทย และที่สำคัญเราทราบจากการตรวจ RT-PCR จึงต้องพิจารณาหากจะยกออกไป
ส่วนเคสอื่นๆ ยังไม่มี อย่าเพิ่งไปลือกัน ทั้งนี้ เมื่อมีรายแรก ก็เชื่อว่าจะมีรายอื่นๆอีก ขออย่าตกใจ ต้องเตรียมพร้อม เพราะหลายประเทศเจอ จะเว้นประเทศไทยประเทศเดียวคงไม่ได้ และขอให้ทางศูนย์ทางใต้ตรวจเข้มมากขึ้น เพราะเรามีชายแดนติดมาเลเซีย ซึ่งก็เจอเชื้อแล้ว ” นพ.ศุภกิจกล่าว