น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า ขณะนี้ร่างกฎกระทรวงกำหนดธุรกิจบริการที่ไม่ต้องขออนุญาตในการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. ...สำหรับธุรกิจธนาคารพาณิชย์ , ธุรกิจบริการเป็นสำนักงานผู้แทนธนาคาร , ธุรกิจประกันชีวิต และธุรกิจประกันวินาศภัย ได้ผ่านการอนุมัติหลักการจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2558 และอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งคาดว่าร่างกฎกระทรวงดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ปลายปี 2558
ทั้งนี้การทบทวนประเภทธุรกิจตามบัญชีแนบท้ายกฎหมายดังกล่าว เป็นการปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพการค้า การลงทุน และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกต่อการค้า การลงทุน ในธุรกิจภาคบริการ และลดความซ้ำซ้อน การกำกับดูแล เพราะธุรกิจที่กำหนดให้ไม่ต้องขออนุญาต จากคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวอีก เนื่องจากมีกฎหมายเฉพาะดูแลอยู่แล้ว การให้ขออนุญาต จะเป็นการซ้ำซ้อนและมีขั้นตอนยุ่งยาก
อย่างไรก็ตามเมื่อเดือนตุลาคม 2558 คณะกรรมการ การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ได้อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในไทย 27 ราย มีการนำเงินเข้ามาลงทุนในการประกอบธุรกิจ 1,189 ล้านบาท และ มีการจ้างงานคนไทย 287 คน และในช่วง 10 เดือนแรกปี 2558 ได้อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในไทยรวม 336 ราย ลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 มีเงินลงทุนรวม 13,009 ล้านบาท ลดลง 78% เนื่องจากในปี 2557 มีผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ และธุรกิจบริการทางการเงิน ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง
สำหรับธุรกิจที่ได้รับอนุญาตในเดือนต.ค. ได้แก่ 1.ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม และผู้ประกอบการอุตสาหกรรม 13 ราย มีเงินลงทุน 1,044 ล้านบาท ส่วนใหญ่ให้คำปรึกษาแนะนำและบริหารจัดการ บริการด้านการตลาด ให้กู้ยืมเงิน และให้เช่าพื้นที่อาคาร จากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
2.ธุรกิจสำนักงานภูมิภาค/ผู้แทน 10 ราย มีเงินลงทุน 30 ล้านบาท เป็นการรายงานความเคลื่อนไหวทางธุรกิจเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจ การลงทุนให้สำนักงานใหญ่ และเป็นการให้คำแนะนำ และเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าของสำนักงานใหญ่และบริษัทในเครือจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
3.ธุรกิจที่เป็นคู่สัญญากับภาครัฐ/รัฐวิสาหกิจ 3 ราย มีเงินลงทุน 76 ล้านบาท ได้แก่ บริการจัดหา ก่อสร้าง และติดตั้งสายส่งไฟฟ้าแรงสูงให้แก่ กฟผ. บริการเป็นที่ปรึกษาเพื่อบริหารโครงการและควบคุมการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้แก่ รฟม. และบริการออกแบบ และติดตั้งระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (ระบบตั๋วร่วม) ให้แก่ สนข. จากประเทศญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย และ 4.ธุรกิจค้าปลีก 1 ราย มีเงินลงทุน 39 ล้านบาท ได้แก่ การค้าปลีกเครื่องมือวิเคราะห์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์