ชาวบ้านสุดทน ลุกฮือขับไล่เจ้าสำนักสงฆ์รุกที่ทำกิน สุดช้ำแจ้งจับชาวนาเจ้าของสิทธิ์ ขณะที่เจ้าคณะจังหวัดฯลั่นผิดจริง พร้อมสั่งปิดสำนัก ให้ออกจากพื้นที่ เจ้าสำนักไม่หวั่นรับผ้าป่าเฉย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 6 ธ.ค. 64 ชาวบ้านบ้านกุดโง้ง ต.โพนข่า อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ กว่า 30 คน รวมตัวกันชูป้ายประท้วงขับไล่เจ้าสำนักสงฆ์ป่าศรีโนนกอก ตำบลโพนข่า โดยกล่าวหาอ้างว่าเจ้าสำนักสงฆ์ดังกล่าวบุกรุกยึดที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ครอบครอง ตาม ส.ค.1 ของชาวบ้าน จำนวน 34 ราย รวมกว่า 80 ไร่ เข้ามาปักหลักสร้างสำนักสงฆ์ มานาน 7 ปี ซึ่งชาวบ้านผู้ครอบครองสิทธิ์ไม่ยินยอม และได้ต่อสู้เรียกร้องให้เจ้าสำนักสงฆ์ดังกล่าว ออกจากพื้นที่ แต่เวลาล่วงเลยมานานยังนิ่งเฉย จึงรวมตัวกันขับไล่และร้องขอความเป็นธรรม
นางสมใจ ลาลุน อายุ 71 ปี ชาวบ้านผู้มีสิทธิ์ครอบครองที่ดิน ตาม ส.ค.1 กล่าวว่า ตนเป็นผู้มีสิทธิ์ครอบครองที่ดิน ตาม ส.ค.1 จำนวน 33 ไร่ เป็นพื้นที่ซึ่งได้ครอบครองทำกินมาตั้งแต่บรรพบุรุษ หลายสิบปี ต่อมาเมื่อ 7 ปีที่แล้ว เจ้าสำนักสงฆ์รูปดังกล่าวได้ธุดงค์มาปักกลดอยู่ตรงกลางที่ดินของชาวบ้านหลายราย ซึ่งตอนแรกก็ใช้พื้นที่เป็นวงแคบๆ ต่อมาเจ้าสำนักสงฆ์เริ่มขยายอาณาเขตรุกล้ำพื้นที่ทำกินชาวบ้าน และห้ามชาวบ้านเข้ามาทำกินในที่ดินผืนดังกล่าว บางครั้งพวกตนทำนาในที่ของตัวเองที่มีสิทธิ์ กลับถูกเจ้าสำนักสงฆ์ดังกล่าวแจ้งความจับ ทั้งที่ทำนาในที่ซึ่งตนมีเอกสารสิทธิ์ จนชาวบ้านทนไม่ไหวและได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษไว้แล้ว พวกตนต้องการให้พระเจ้าสำนักสงฆ์ออกจากที่ดินของพวกตน เพื่อที่จะได้เข้ามาทำกินเหมือนแต่ก่อนมา
ด้าน พระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธ) ได้มีหนังสือประกาศคำสั่ง ที่ 16/2564 ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ให้ปิดที่พักสงฆ์ป่าศรีโนนกอก และให้เจ้าสำนักสงฆ์ดังกล่าวออกจากที่พักสงฆ์ เพราะปฏิบัติฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ จากผลของการวินิจฉัยคณะสงฆ์ มีความเห็นว่าได้ทำผิดจริง จึงอาศัยอำนาจตามข้อ 15 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 23 พร้อมทั้งสั่งปิดที่พักสงฆ์ดังกล่าว และไม่อนุญาตให้ภิกษุสามเณรอยู่พักจำพรรษา ณ ที่ดังกล่าว
อย่างไรก็ตามถงแม้จะมีคำสั่งคณะสงฆ์แล้ว เจ้าสำนักสงฆ์ดังกล่าว ยังไม่ยอมยุติกิจกรรมทางสงฆ์และยังนำคณะสงฆ์สามเณรจำวัดพักอาศัยอยู่หลายสิบรูป โดยไม่ได้แจ้งให้เจ้าคณะจังหวัดทราบ ชาวบ้านจึงพากันรวมตัวมานิมนต์ให้ออกจากพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน และวอนหน่อยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามระเบียบกฎหมายต่อไป.
ทีมข่าวศรีสะเกษ