นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีรับมอบเงินบริจาคจำนวน 2,112,955 บาท จากธนาคารกรุงไทย เพื่อสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์และนวัตกรรมทางการแพทย์โรงพยาบาลราชวิถี โดยมีนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เป็นผู้มอบ และนพ.จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี เป็นผู้รับมอบ รวมถึง นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เข้าร่วม พร้อมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการให้บริการวัคซีนโควิด 19 แก่ประชาชน
นายอนุทินกล่าวว่า ธนาคารกรุงไทยให้การสนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขมาโดยตลอด ทั้งเรื่องของกระเป๋าสุขภาพในแอปพลิเคชันเป๋าตัง การรวบรวมเงินบริจาคสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับสถานพยาบาลในการดูแลผู้ป่วย ซึ่งปีที่ผ่านมาได้มอบเงินให้แก่สถาบันบำราศนราดูร และปีนี้ได้มอบเงินให้แก่โรงพยาบาลราชวิถีซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งใน กทม. เพื่อสนับสนุนการดูแลผู้ป่วยโควิด 19
ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด 19 เนื่องจากสามารถฉีดครอบคลุมประชาชนไปได้จำนวนมากแล้ว ทำให้จำนวนการฉีดรายวันลดน้อยลง แต่จะยังเดินหน้าฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมมากที่สุด และเตรียมฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในผู้รับวัคซีนชนิดเดียวกันทั้งซิโนแวค ซิโนฟาร์ม และแอสตร้าเซนเนก้า ครบ 2 เข็มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 เป็นต้นไป เนื่องจากวัคซีนมีเพียงพอและยังได้จัดเตรียมไว้สำหรับปี 2565 ด้วยแล้ว ขอให้ประชาชนติดตามการแจ้งให้ลงทะเบียนรับวัคซีนของจุดฉีดต่าง ๆ ส่วนผู้ที่ฉีดสูตรไขว้ พบว่าภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับที่สูงมาก จะมีการติดตามตรวจระดับภูมิคุ้มกันว่าจะต้องฉีดกระตุ้นเพิ่มเติมในช่วงเวลาใดต่อไป
“วัคซีนช่วยลดโอกาสการติดเชื้อ และหากติดเชื้อจะช่วยป้องกันความรุนแรงและการเสียชีวิต แม้จะเป็นสายพันธุ์โอมิครอน และเมื่อร่วมกับการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention) ทั้งสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ก็จะลดความเสี่ยงการติดเชื้อลงอย่างมาก” นายอนุทินกล่าว
ด้าน นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารกรุงไทยมีความห่วงใยและพร้อมสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ โดยคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทั่วประเทศได้ร่วมบริจาคสมทบทุนผ่านระบบ e-Donation เนื่องในโอกาสครบรอบ 55 ปีธนาคาร และในโอกาสครบรอบ 70 ปี โรงพยาบาลราชวิถี เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานโดยเฉพาะในช่วงวิกฤตโควิด 19 โดยเงินบริจาคจะนำไปจัดซื้อนวัตกรรมทางการแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นต่าง ๆ เพื่อการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 ต่อไป