1. ประชาชนจะเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวและปีใหม่ที่จะถึงนี้ หรือไม่
อันดับ1 ไม่ไป 40.57% เพราะ กังวลโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอไมครอน 80.58% ปัญหาเศรษฐกิจ/เงินไม่พร้อม 46.92% สภาพการจราจร รถเยอะ 38.85%
อันดับ 2 ไป 34.35% เพราะ ฉีดวัคซีนแล้ว/มั่นใจว่าดูแลตัวเองได้ 84.78% ต้องการพักผ่อน/คลายเครียด 63.77% วางแผนไว้แล้ว 48.03%
อันดับ 3 ไม่แน่ใจ 25.08%
2. "5 จังหวัด" ที่ประชาชนอยากไปเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวและปีใหม่นี้มากที่สุด
อันดับ 1 เชียงใหม่ 41.22%
อันดับ 2 เชียงราย 25.68%
อันดับ 3 ประจวบคีรีขันธ์ 25.00%
อันดับ 4 น่าน 23.65%
อันดับ 5 ชลบุรี 20.27%
3. คาดการณ์ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวและปีใหม่นี้ เฉลี่ยประมาณ 12,857.68 บาท
4. การเดินทางท่องเที่ยวของประชาชนในช่วงวันหยุดยาวและปีใหม่นี้จะเป็นอย่างไร
อันดับ 1เดินทางด้วยรถส่วนตัว 85.79%
อันดับ 2 เลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่อากาศดี ถ่ายเทสะดวก ไม่คับแคบ 57.36%
อันดับ 3 เดินทางท่องเที่ยวแบบป้องกันตัวเองจากโควิด-19 อย่างเต็มที่ 52.38%
อันดับ 4 วางแผนค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวมากขึ้น 42.63%
อันดับ 5 ระมัดระวังเรื่องอาหารการกินมากขึ้น 38.68%
5. สิ่งที่อยากให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวและปีใหม่นี้
อันดับ 1 กำหนดมาตรฐานสุขภาพให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว มีการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข 64.42%
อันดับ 2 เร่งสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยจากโควิด-19 ในสถานที่ท่องเที่ยว 63.57%
อันดับ 3 มีมาตรการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยว เช่น เราเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง 46.51%
อันดับ 4 ผู้ประกอบการจัดโปรโมชั่น มีส่วนลด แพ็คเกจพิเศษ 46.05%
อันดับ 5 ช่วยค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 45.81%
นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า จากผลการสำรวจของสวนดุสิตโพล พบว่า จังหวัดเชียงใหม่ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของคนไทย โดยอยู่ในอันดับ 1 ถึง 2 ปีติดต่อกัน เพราะเป็นจังหวัดที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักเดินทางได้ครบทุกสไตล์
ภาครัฐจึงควรสนับสนุนการท่องเที่ยววิถีใหม่ปลอดภัยจากโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ชูจุดเด่นการเป็นทั้งที่เที่ยวและที่ทำงาน (Workation) ให้สอดรับกับนโยบายการทำงานที่บ้าน กระตุ้นกำลังการท่องเที่ยวในประเทศเพื่อชดเชยการชะลอตัวจากตลาดต่างประเทศ สร้างความมั่นใจให้นักเดินทางกล้าที่จะเดินทางท่องเที่ยวและกล้าที่จะใช้จ่ายเงินในกระเป๋า เพื่อให้ภาพการท่องเที่ยวในประเทศมีความสดใสและปลอดภัยจากโควิด-19 ไปพร้อม ๆ กัน
ด้าน อาจารย์ดุจตะวัน กันไทยราษฎร์ อาจารย์ประจำโรงเรียนการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า การท่องเที่ยวในยุคโควิด-19 มีแนวโน้มว่าคนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่พร้อมเดินทางมากนัก เพราะยังลังเลกับสถานการณ์โควิด-19 และไวรัสสายพันธุ์ใหม่ Omicron ที่ยังน่าเป็นห่วง รวมถึงมีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจทั้งส่วนตัวและส่วนรวม แต่โดยธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องการเปลี่ยนสถานที่หลีกหนีจากความจำเจในชีวิตประจำวัน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดในการท่องเที่ยว จึงเชื่อว่ากระแสการออกเดินทางน่าจะยังคึกคักขึ้นกว่าเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว
นอกจากนี้ ด้วยปัจจัยหลายอย่าง อาทิ การคลายล็อคในหลายธุรกิจและจำนวนผู้ฉีดวัคซีนที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งการท่องเที่ยวยังช่วยผ่อนคลาย ช่วยเติมพลังเติมกำลังใจซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุดในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ จะทำให้ผู้คนเริ่มวางแผนสำหรับปีใหม่โดยเลือกวิธีและการใช้จ่ายที่เหมาะกับตัวเอง โดยเทรนด์สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมจะเป็นที่ที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ เน้นความเรียบง่าย ไม่แออัดรวมถึงใส่ใจในความปลอดภัยห่างไกลโควิด-19 เป็นสำคัญ