คณะกรรมการการเลือกตั้งเมียนมา แถลงเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 58 ว่า นางซู จี นางออง ซาน ซู จี ผู้นำฝ่ายค้านเมียนมา ชนะการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งกอมู ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ในชนบทใกล้นครย่างกุ้ง ด้วยคะแนนเสียง 54,676 คะแนน และคาดว่า พรรคสันนิบาตเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ หรือเอ็นแอลดี.ของเธอจะได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย หลังได้รับที่นั่งไปแล้วเกือบร้อยละ 90 ของที่นั่ง ทั้งในสภาสูงและสภาล่างที่มีการประกาศจนถึงล่าสุด
ทางด้าน พลเอกมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการกองทัพเมียนมา ได้ออกมาแสดงความยินดีกับพรรคสันนิบาตเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ หรือเอ็นแอลดี. ของนางออง ซาน ซู จี ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง และพร้อมที่จะเจรจากับเธอ
การแสดงท่าทีดังกล่าวของพลเอกมิน อ่อง หล่าย นับเป็นการส่งสัญญาณที่สำคัญจากผู้บัญชาการกองทัพเมียนมา และมีขึ้นหลังจากที่นางซู จี ส่งจดหมายเชื้อเชิญพลเอกมิ่น อ่อง หล่าย ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ผู้นำเมียนมา รวมทั้งนายฉ่วย มาน ประธานสภาผู้แทนราษฎรเมียนมา ให้เข้าร่วมการเจรจาสร้างความปรองดองในสัปดาห์หน้า หลังจากที่พรรคเอ็นแอลดีของนางซู จี ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ขณะที่ผลการเลือกตั้งล่าสุด ปรากฏว่า จากจำนวนที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรที่ประกาศแล้ว 149 ที่นั่ง พรรคเอ็นแอลดีได้ไป 135 ที่นั่ง พรรคสหสามัคคีและการพัฒนา หรือยูเอสดีพี. ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ได้เพียง 8 ที่นั่ง ส่วนพรรคอื่นๆ มี 6 ที่นั่ง ขณะที่ผลการนับคะแนนในวุฒิสภาประกาศไปแล้ว 274 ที่นั่ง พรรคเอ็นแอลดีกวาดไปได้ถึง 234 ที่นั่ง พรรคยูเอสดีพีมี 26 ที่นั่ง และพรรคอื่นๆ 14 ที่นั่ง ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรเมียนมามีสมาชิก 440 ที่นั่ง ในจำนวนนี้เป็นสัดส่วนของทหาร 110 ที่นั่ง ส่วนวุฒิสภามี 224 ที่นั่ง เป็นของทหาร 56 ที่นั่ง
อย่างไรก็ตามการประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการยังประกาศได้ไม่ครบทุกเขต ท่ามกลางกระแสข่าวว่าบางเขตซึ่งเป็นพื้นที่ของชนกลุ่มน้อยเริ่มมีปัญหาการประท้วงผลการเลือกตั้ง ทำให้นักธุรกิจที่เข้าไปลงทุนในเมียนมาต้องลุ้นระทึกด้วยความห่วงกังวล กลัวไปว่าถ้ามีเหตุบานปลาย รัฐบาลทหารก้จะหาเหตุประกาศล้มผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงการเมืองในเมียนมาก็จะวุ่นวายหนัก รวมถึงอาจจะเกิดการบอยคอตและกดดันจากประเทศมหาอำนาจต่างๆ ที่เข้าไปลงทุนในเมียนมาขณะนี้