สมอ.เผยกำหนดมาตรฐานหน้ากากอนามัยตามขั้นตอน หลังมีหน่วยงานออกมาแถลงข่าวผลการทดสอบหน้ากากอนามัยใช้ครั้งเดียว 41 ยี่ห้อไม่ผ่านมาตรฐาน ยืนยันตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้อยู่ระหว่างดำเนินการประกาศเป็นสินค้าควบคุม คาดมีผลบังคับใช้กลางปี 65 ทุกยี่ห้อต้องได้มาตรฐาน มอก. เตือนผู้บริโภคดูเครื่องหมายมาตรฐานก่อนซื้อ
นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีหน่วยงานแถลงข่าวผลการทดสอบหน้ากากอนามัยใช้ครั้งเดียว เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.00-12.00 น. ผ่านทาง Facebook live โดยทดสอบหน้ากากอนามัยใช้ครั้งเดียว จำนวน 41 ยี่ห้อ พบว่าไม่ผ่านตามเกณฑ์มาตรฐาน มอก. 2424-2562 จำนวน 35 ยี่ห้อ และทดสอบหน้ากาก N95 จำนวน 19 ยี่ห้อ พบว่าไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน มอก.2480-2562 จำนวน 6 ยี่ห้อ และเรียกร้องให้ สมอ. กำหนดให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมหรือเป็นมาตรฐานบังคับ เพื่อควบคุมคุณภาพสินค้าและคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้านั้น
ทั้งนี้ขอชี้แจงว่า การดำเนินการของ สมอ. ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการประกาศให้หน้ากากอนามัยใช้ครั้งเดียว มอก.2424-2562 เป็นสินค้าควบคุม โดยเสนอร่างกฎกระทรวงต่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในกลางปี 2565 ปัจจุบัน สมอ. กำหนดมาตรฐานหน้ากากอนามัยและที่เกี่ยวข้อง เป็นมาตรฐานทั่วไป หรือมาตรฐานภาคสมัครใจ จำนวน 7 มาตรฐาน ดังนี้ 1.มอก. 2424-2562 หน้ากากอนามัยใช้ครั้งเดียว2.มอก.2480-2562 หน้ากาก N 95 3.มอก. 3189-2564 หน้ากากใช้ครั้งเดียวชนิด N99 ลดความเสี่ยงการติดเชื้อทางการแพทย์ 4.มอก. 3190-2564 หน้ากากใช้ครั้งเดียวชนิด N100 ลดความเสี่ยงการติดเชื้อทางการแพทย์ 5.มอก. 3199-2564 หน้ากากผ้า 6.มอก. 2199-2547 อุปกรณ์ปกป้องทางเดินหายใจ : ชนิดกรองอนุภาค7. มอก. 2382-2551 อุปกรณ์ปกป้องทางเดินหายใจ : ชนิดกรองอนุภาคดูดซับก๊าซและไอในขณะเดียวกัน
ส่วนกรณีที่มีการแถลงข่าวดังกล่าว สมอ. ได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ในจำนวน 41 ยี่ห้อนั้น มีผู้ประกอบการ 4 ราย ที่ได้รับอนุญาตจาก สมอ. ได้แก่ บริษัท ทีพีซีเอส จำกัด (มหาชน) บริษัท เคเอส โกลเด้น จำกัด บริษัท เอ็น.เอ็น.สกายเทรด จำกัด และบริษัท เฮลท์เวย์ ซัพพลาย จำกัด มีผลการทดสอบผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน สมอ. จึงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เนื่องจากหน้ากากอนามัยมาตรฐาน มอก. นั้น มี 3 ระดับการป้องกัน ดังนี้ ระดับ 1 ใช้งานทั่วไป ระดับ 2 ใช้งานด้านการแพทย์ทั่วไป และระดับ 3 ใช้งานทางการแพทย์ในทางศัลยกรรม ซึ่งแต่ละระดับมีความเข้มข้นในการทดสอบต่างกัน และต้องตรวจสอบวันเดือนปีที่ผลิตหน้ากากอนามัยล็อตที่ถูกสุ่มตรวจด้วย ซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้ที่ผลิตขึ้นก่อนได้รับใบอนุญาตตามมาตรฐาน มอก. โดยขณะนี้ สมอ.ได้ส่งหน้ากากอนามัยของผู้ประกอบการทั้ง 4 รายไปทดสอบตามมาตรฐาน มอก. แล้ว และจะตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อขยายผลต่อไป นอกจากนี้ ยังได้ทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการทั้ง 10 รายที่ได้รับใบอนุญาต ให้ผลิตสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานอย่างสม่ำเสมอตามที่ได้รับใบอนุญาตจาก สมอ. หากตรวจสอบพบว่าสินค้าไม่เป็นไปตามมาตรฐาน จะดำเนินการพักใช้ใบอนุญาตทันที
สำหรับหน้ากากอนามัยใช้ครั้งเดียวตามมาตรฐาน มอก. 2424-2562 นั้น กำหนดระดับการกรองน้อยสุด มีประสิทธิภาพในการกรองแบคทีเรียไม่น้อยกว่า 95% กรองอนุภาคขนาด 0.1 ไมครอนได้ ไม่น้อยกว่า 95% และสามารถป้องกันไม่ให้ของเหลวซึมผ่านได้ ซึ่งปัจจุบันยังเป็นมาตรฐานทั่วไปที่ผู้ประกอบการสมัครใจจะยื่นขอใบอนุญาตหรือไม่ก็ได้ แต่หลังจากที่ สมอ. ประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมแล้ว จะเป็นผลให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้จำหน่าย จะต้องผลิต นำเข้า และจำหน่ายเฉพาะสินค้าที่ได้รับอนุญาตจาก สมอ. เท่านั้น หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย ซึ่งในระหว่างที่ สมอ. ดำเนินการประกาศเป็นสินค้าควบคุม และผู้บริโภคจำเป็นต้องซื้อหน้ากากอนามัยมาใช้ ขอให้สังเกตเครื่องหมาย มอก.ก่อนซื้อทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่ามีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน