บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด (เชฟรอนประเทศไทย) และ บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (PTTEP ED) จัดพิธีลงนามข้อตกลงการเข้าพื้นที่ระยะที่ 2 (Site Access Agreement 2 หรือ SAA2) ข้อตกลงการโอนถ่ายการดำเนินงาน (Operations Transfer Agreement: OTA) และข้อตกลงการเข้าพื้นที่ของผู้รับสัมปทานเพื่อดำเนินกิจกรรมการรื้อถอน (Asset Retirement Access Agreement หรือ ARAA) ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความร่วมมือ และการดำเนินงานของทั้งสองบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับแหล่งปิโตรเลียมเอราวัณ ที่เชฟรอนประเทศไทยจะส่งมอบให้กับ PTTEP ED ซึ่งเป็นผู้ดำเนินงานรายใหม่ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2565
พิธีลงนามจัดขึ้นที่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ โดยมีผู้บริหารจากทั้งสามหน่วยงาน นำโดยนายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ นายชาทิตย์ ห้วยหงษ์ทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด และนายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ร่วมในพิธี พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากทั้ง 3 หน่วยงาน
ข้อตกลงทั้งสามฉบับถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในความร่วมมือของเชฟรอนประเทศไทยและ PTTEP ED ที่จะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของทั้งสองฝ่าย รวมถึงการเข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณของ PTTEP ED ก่อนสิ้นสุดสัญญาสัมปทานเพื่อเตรียมการ ประสานความร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัทในกระบวนการทำงานเพื่อส่งมอบการปฏิบัติงานของแหล่งเอราวัณ อันจะช่วยส่งเสริมการเตรียมการของ PTTEP ED เพื่อเป็นผู้ดำเนินงานของแหล่งเอราวัณในเดือนเมษายน ปี 2565 ตลอดจนสนับสนุนให้เชฟรอนประเทศไทยสามารถกลับเข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณภายหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานเพื่อดำเนินงานรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่ใช้ในกิจการปิโตรเลียมให้แล้วเสร็จด้วยความปลอดภัยตามข้อตกลงของสัญญาสัมปทานอีกด้วย
นายชาทิตย์ ห้วยหงษ์ทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ว่า “เชฟรอนประเทศไทยยินดีกับการลงนามในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อส่งมอบแหล่งเอราวัณอย่างปลอดภัยในเดือนเมษายน พ.ศ.2565 โดยที่ผ่านมาบุคลากรของเราได้ทำงานร่วมกับบริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ PTTEP ED และกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เพื่อเตรียมการส่งมอบการดำเนินงานของแหล่งเอราวัณ จนเกิดความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกับ PTTEP ED หลายประการรวมถึงการเข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณเพื่อทำงานสำรวจ การตรวจสอบสิ่งติดตั้งและอุปกรณ์ และการเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญ ที่จะสนับสนุนการดำเนินงานเปลี่ยนผ่านแหล่งเอราวัณ ซึ่งการลงนามข้อตกลงทั้ง 3 ฉบับในครั้งนี้นับเป็นสิ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเชฟรอนประเทศไทยและความร่วมมือของทั้ง 3 หน่วยงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา”
นายชาทิตย์ กล่าวต่อว่า “ถึงแม้ว่าการส่งผ่านแหล่งเอราวัณเป็นกระบวนการที่มีความท้าทายด้วยรายละเอียดต่างๆ ที่ซับซ้อน และในหลายๆ ครั้ง เราได้ดำเนินงานนอกเหนือจากภาระผูกผันที่ระบุไว้ในสัญญาสัมปทานเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการส่งมอบแหล่งเอราวัณให้สำเร็จลุล่วงด้วยความปลอดภัย ทั้งนี้ เชฟรอนประเทศไทยยังคงมุ่งมั่นดำเนินงาน เพื่อบรรลุเป้าหมายระยะยาวในการจัดหาพลังงานที่สะอาด อย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้ให้กับประเทศไทย ควบคู่ไปกับการมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานของประเทศต่อไปในอนาคต”
แม้ว่าเชฟรอนประเทศไทยจะไม่มีภาระผูกพันภายใต้เงื่อนไขของสัญญาสัมปทานในการให้ PTTEP ED เข้าพื้นที่ของแหล่งเอราวัณล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ให้ความร่วมมือกับ PTTEP ED ในการเข้าพื้นที่ของแหล่งเอราวัณเพื่อดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวกับการสำรวจพื้นที่เพื่อเตรียมการและกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2562 ภายใต้ข้อตกลงการเข้าพื้นที่ฉบับที่ 1 (Site Access Agreement 1 หรือ SAA1) ซึ่งความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายส่งผลให้กิจกรรมต่างๆ ภายใต้ข้อตกลงนี้เป็นไปด้วยความปลอดภัย และคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมกราคม พ.ศ. 2565 นอกจากนั้นเชฟรอนประเทศไทยยังประสานความร่วมมือกับ PTTEP ED ในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมการเป็นผู้ดำเนินงานแหล่งเอราวัณอย่างต่อเนื่อง อาทิ การตรวจสอบสิ่งติดตั้งและอุปกรณ์ การถ่ายโอนข้อมูลและอนุญาตให้ใช้ข้อมูลร่วมกัน รวมถึงการวางแผนต่างๆ เช่น แผนรับมือเหตุฉุกเฉิน แผนกำลังคน แผนทำความคุ้นเคยกับพื้นที่ เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญต่อการส่งมอบการดำเนินงานของแหล่งเอราวัณอย่างปลอดภัย ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2565