“รองนายกฯ ประวิตร” ลงพื้นที่โคราช ติดตาม 9 มาตรการรองรับสถานการณ์แล้ง ปี 2564/65 พร้อมตรวจพื้นที่ก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำมูล เตรียมแผนป้องกันน้ำท่วม-น้ำแล้งให้ชาวโคราชอย่างเป็นระบบ ลดผลกระทบน้ำหลากและกักเก็บน้ำใช้สำรองช่วงแล้ง
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวภายหลังการติดตาม พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กอนช. ลงพื้นที่ตรวจราชการและเป็นประธานเปิดงาน “บจธ.มอบสิทธิในที่ดินทำกิน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ณ วิสาหกิจชุมชนไร่นาสวนผสมเกษตรฐานรากช่องโคพัฒนา พร้อมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำมูลและตรวจเยี่ยมพื้นที่เพื่อก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำมูล บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำมูล ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของ จ.นครราชสีมา อยู่ในลุ่มน้ำมูล มีลำน้ำที่สำคัญ ได้แก่ ลำแชะ ลำพระเพลิง ลำตะคอง ลำน้ำมูลและลำจักราช มีปริมาณน้ำฝนรายปีเฉลี่ย 1,078.6 มม. ปริมาณน้ำท่ารายปีเฉลี่ย 3,512 ล้าน ลบ.ม. มักประสบปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง เนื่องจากสภาพภูมิประเทศของพื้นที่ลุ่มน้ำมีความลาดชันสูง ในปีที่ปริมาณฝนมากจะเกิดปัญหาอุทกภัย เพราะลำน้ำรับปริมาณน้ำได้จำกัดและลำน้ำตื้นเขิน รวมทั้งปัญหาการบุกรุกลำน้ำจากสภาพการใช้ที่ดินที่เปลี่ยนแปลงไป โดยพื้นที่ที่มักประสบปัญหา ได้แก่ อ.เมือง อ.พิมาย อ.ปักธงชัย อ.โชคชัย ในส่วนของปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากเป็นพื้นที่เงาฝน สภาพพื้นที่มีฝนน้อยและเกิดสภาวะฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ประกอบกับเป็นพื้นที่เศรษฐกิจมีความต้องการใช้น้ำค่อนข้างสูง จึงประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเป็นประจำทุกปี โดยพื้นที่ที่มีการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค เช่น อ.ประทาย อ.โนนแดง อ.สีดา และอ.บัวลาย พื้นที่ขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร เช่น บริเวณพื้นที่ ต.พังเทียม ต.สระพระ อ.พระทองคำ ต.ขามสะแกแสง อ.ขามสะแกแสง อ.ด่านขุนทด อ.เทพารักษ์ อ.เฉลิมพระเกียรติ
“พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงชาวโคราชต่อสถานการณ์น้ำท่วมและน้ำแล้งในพื้นที่ที่มักเกิดขึ้นเป็นประจำแทบทุกปี โดยเฉพาะฤดูแล้งปีนี้ จึงได้กำชับให้ กอนช. กำกับติดตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนแผนงานโครงการตาม 9 มาตรการ รองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำในช่วงแล้ง ปี 2564/65 อย่างเคร่งครัด และบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ให้เป็นไปตามแผน เพื่อให้การจัดสรรน้ำใช้ในกิจกรรมต่างๆ เพียงพอตลอดช่วงแล้งนี้ ลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนให้น้อยที่สุด สำหรับการลงพื้นที่ในวันนี้ รองนายกรัฐมนตรียังได้ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำมูลและตรวจเยี่ยมพื้นที่เพื่อก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำมูล เพื่อเตรียมแผนป้องกันปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่โคราชไว้ล่วงหน้า สามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ และสั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดการดำเนินแผนงาน/โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำตามแผนที่ได้จัดสรรไว้ให้เกิดผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพสูงสุดด้วย” เลขาธิการ สทนช. กล่าว
สำหรับแผนงาน/โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ จ.นครราชสีมา สทนช.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ปี 61-64 จำนวน 8,621 โครงการ ความจุ 57.35 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 54,547 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 291,004 ครัวเรือน พื้นที่ได้รับการป้องกัน 49,133 ไร่ อาทิ โครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบท่อจ่ายน้ำ กปภ.สาขาปากช่อง โครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำจักราช (ต่อเนื่องเขื่อนเดิม) บริเวณบ้านประตูชัย หมู่ที่ 14 ต.พิมาย–ต.ในเมือง อ.พิมาย โครงการแก้มลิงหนองหนามแดงพร้อมอาคารประกอบ ปริมาตรเก็บกัก 1.000 ล้าน ลบ.ม. ต.กระชอน โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูหนองช้างน้ำ บ้านหนองขาม หมู่ที่ 7 ต.โบสถ์ อ.พิมาย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีโครงการสำคัญจำนวน 11 โครงการ ความจุ 102 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 95,469 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 104,175 ครัวเรือน อาทิ โครงการขุดลอกลำห้วยใหญ่ โครงการประตูระบายน้ำบ้านยาง โครงการจัดหาน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปาที่โรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า โครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนโนนสูง เป็นต้น