นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ กกต./นายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อขอให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวน เพื่อเอาผิดหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(ในขณะนั้น) ฐานเจตนาให้การรับรองผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กทม. เขตเลือกตั้งที่ 9 (นายสิระ เจนจาคะ) อันเป็นเท็จ รวมทั้งผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ กทม.ที่บกพร่องการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบคุณสมบัตินายสิระ เจนจาคะ หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของนายสิระว่าไม่ได้มีมาตั้งแต่สมัครรับเลือกตั้ง ตาม รธน.ม.98(10)
ทั้งนี้เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่านายสิระ เจนจาคะ ซึ่งเป็นบุคคลที่เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดของศาลแขวงปทุมวัน ว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทําโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญานั้น ย่อมเป็นบุคคลที่ต้องห้ามมิให้สมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง การที่นายสิระ เจนจาคะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐได้ ชี้ให้เห็นว่านายทะเบียนของพรรคย่อหย่อนต่อการตรวจสอบคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม ที่ไม่เป็นไปตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ข้อ 52(3) และต่อมาการที่ หน.พรรค พปชร.ให้การรับรองลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขต 9 กทม.ได้ก่อนหน้านี้ ตาม ม.56 ย่อมเป็นเท็จ จึงอาจเป็นความผิดตาม พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ม.120 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี ส่วน ผอ.เลือกตั้ง กกต.ประจำ กทม.นั้น เนื่องจาก พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 ม.46 วรรคแรก กำหนดว่า ให้เป็นหน้าที่ของผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําเขตเลือกตั้งที่จะต้องตรวจสอบการสมัครของผู้สมัครว่าได้ส่งเอกสารและหลักฐานถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ และ ม.53 ของกฎหมายดังกล่าวยังระบุต่อไปอีกว่า ก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง หากผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําเขตเลือกตั้ง ตรวจสอบแล้วเห็นว่าผู้สมัครผู้ใดไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม มิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้น ผอ.เลือกตั้ง กทม.ซึ่งมีระยะเวลามากพอที่จะตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครให้ละเอียดรอบคอบได้ แต่ก็เพิกเฉยจนกระทั่งมีผู้ไปร้องเรียนจนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพิกถอนการคุณสมบัติดังกล่าว ผอ.เลือกตั้ง กทม.ย่อมต้องมีส่วนรับผิดชอบในความบกพร่องดังกล่าวด้วย ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำความมาร้องเรียนเพื่อให้คณะกรรมการ กกต./นายทะเบียนพรรคการเมือง ไต่สวน สอบสวนและวินิจฉัยเอาผิด หน.พรรค พปชร.(ในขณะนั้น) และ ผอ.เลือกตั้ง กทม.ต่อไปตามครรลองของกฎหมาย นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด