ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สังคม / บุคคล ย้อนกลับ
รอง.ผบช.ภาค 7 ลงพื้นที่ สภ.หนองขาว กำชับเร่งรัดสอบสวนคดี นกท่าล้อ
06 ม.ค. 2565

กาญจนบุรี – นกท่าล้อ เจอ 6 ข้อหา รอง.ผบช.ภาค 7 ลงพื้นที่ สภ.หนองขาว กำชับเร่งรัดสอบสวนคดี นกท่าล้อ เผารถจักรยานยนต์ ล่อให้นนท์ชัย ออกมาก่อนลั่นกระสุนใส่ 3 นัดไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ญาติผู้เสียชีวิตนำกระเช้ามอบแทนการขอบคุณ

จากกรณี ร้อยตำรวจเอก ชาณวิทย์ ดาวเรือง รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.หนองขาว ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ และมีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าบริเวณแก้มซ้ายทะลุท้ายทอย และท้อง  วันที่ 3 มกราคม 2565 ที่ผ่านมานั้นทำให้นายนนท์ชัย เล็กดารา อายุ 36 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 92/1 ม. 2 ต.ทุ่งทอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี บาดเจ็บสาหัสรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น ล่าสุดเสียชีวิตช่วงคืนที่ผ่านมา

วันนี้ 05 ม.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานตำรวจ สภ.หนองขาว พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ รอง ผบช.ภ.7 ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ท.ธนายุตม์  วุฒิจรัสธำรง ผบช.ภ. 7 ให้ลงพื้นที่ สภ.หนองขาว เพื่อดูแลเรื่องคดี นายรุ่งเจริญ  หรือนก จรุมเครือ อายุ 51 ปี ใช้น้ำมันราดรถจักรยานยนต์ เผาเพื่อล่อให้ นายนนท์ชัย  เล็กดารา อายุ 36 ปี ที่อยู่ภายในบ้านออกมา ก่อนลั่นกระสุนปืนใส่ 3 นัด ก่อนขับรถยนต์เก๋งหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาว นำกำลังไปจับกุมได้ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

โดยการลงพื้นที่ของ พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ รอง ผบช.ภ.7 ครั้งนี้ได้เข้าไปสอบถาม นายรุ่งเจริญ หรือนก  จรุมเครือ มือปืนเผาแล้วฆ่า นายนนท์ชัย  เล็กดารา เสียชีวิต โดยไม่ให้สื่อเข้าร่วมฟัง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก่อนออกมาและกำชับให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาว ได้ทำการสอบสวนการก่อเหตุนี้อย่างเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย เนื่องจากทางผู้บังคับบัญชา โดยพล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.แห่งชาติ ได้สั่งกำชับให้ทางภาค 7 ได้เร่งรัดคดีเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ เป็นที่สนใจของสื่อมวลชนและสังคม จึงสั่งให้ทางเจ้าหน้าที่ สภ.หนองขาวเร่งสรุปที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา

และโอกาสนี้ได้มีญาติของทั้งผู้เสียชีวิต และญาติของมือปืน ได้เดินทางไปยัง สภ.หนองขาว โดยญาติของ นายนนท์ชัย เล็กดารา ผู้เสียชีวิต มีแม่ พี่ชาย รวมถึงลูกสาวของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน เดินทางไปด้วยพร้อมกระเช้าแสดงความขอบคุณแก่การปฏิบัติหน้าที่รวดเร็วของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย พ.ต.อ.มนตรี  แตงน้อย ผกก. เป็นผู้รับกระเช้าในครั้งนี้  และก่อนเดินทางกลับ รอง ผบช.ภาค 7 ได้สั่งให้ พ.ต.อ. มนตรี  แตงน้อย ผกก. ดูแลช่วยเหลือการเสียญาติผู้สูญเสียตามระเบียบ รวมถึงกำชับให้เชิญทั้ง 2 ฝ่าย มาพูดคุยปรับความเข้าใจ ขอให้จบกันแค่นี้เพราะทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนหน้านี้ก็ร่วมเที่ยวด้วยกัน แต่เพียงพูดจาไม่ให้เกียรติกันจึงเกิดบัลดาลโทสะทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมา และเมื่อเกิดเหตุการณ์แล้วทั้ง 2 ฝ่ายก็มีแต่ความสูญเสียเท่านั้น

ส่วนทางญาติของมือปืน ได้นำอาหารไปเยี่ยม นายรุ่งเจริญ  จรุมเครือ หรือนกท่าล้อ โดยสภาพของ นกท่าล้อ โดยจากการสังเกตเห็นช่วงที่นั่งพูดคุยกับ พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ รอง ผบช.ภ.7  มือปืนมีสีหน้าเรียบเฉยปกติเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องนำตัวไปส่งศาลในวันนี้เนื่องจากครบกำหนด การดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ พ.ต.อ.มนตรี  แตงน้อย ผกก. หนองขาว ได้พูดคุยกับทางญาติของ มือปืน โดยญาติแจ้งว่าทางศาลให้ประกันตัวในวงเงิน 5 แสนบาท ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากจะต้องมีการสืบพยานหาหลักฐานอื่นต่ออีก แต่เรื่องนี้ก็ต้องเป็นดุลพินิจของทางศาล 

พ.ต.อ.มนตรี  แตงน้อย ผกก. กล่าวว่า ทาง พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ รอง ผบช.ภ.7 ได้กำชับว่าอย่าให้ทั้ง 2 ฝ่ายไปก่อนปัญหาขึ้นอีก พร้อมให้อำนวยความสะดวกแก่ทั้ง 2 ฝ่าย เพราะเราเป็นตำรวจของประชาชน อย่าเอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ขอให้เร่งรัดทำสำนวนให้เร็ว รวมถึงดูแลสิทธิของฝ่ายผู้เสียหาย ที่เขาจะได้รับเตรียมเอกสารให้คำแนะนำเขา......และสำหรับข้อหาประกอบด้วย 1.วางเพลิงและเผาทรัพย์ 2.ฆ่าผู้อื่รโดยไตรตรองไว้ก่อน 3.มีอาวุธปืนครอบครองอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาต 4.พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในพื้นที่สาธารณะ 5.ยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันสมควร ส่วนข้อหาที่ 6 จะต้องรอการตรวจพิสูจน์จากหน่วยงานศูนย์วิทยาทางการแพทย์ตรวจว่ามีสารเสพติดชนิดใด เนื่องจากผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่าก่อนก่อเหตุได้เสพยาก่อนไปก่อเหตุ ผลอีกประมาณ 15 วัน ถึงจะทราบ หากผลตรวจออกมาแล้วว่ามีสารเสพติดเราก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มให้กับผู้ต้องหารทราบต่อไป

ทีมข่าวกาญจนบุรี

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...