ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลราคาพลังงานทั้งค่าไฟฟ้า และราคาน้ำมันในปี 2565 ซึ่งกรณีของราคาน้ำมันยังยืนยันที่จะตรึงดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ถึงสิ้นเดือนมี.ค แต่สำหรับการตรึงราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ที่ราคา 318 บาทต่อถัง(ขนาด15 กิโลกรัม) จะสิ้นสุดเดือนม.ค.นี้ หลังจากนั้นจำเป็นต้องทยอยปรับขึ้นราคาแบบขั้นบันไดเพื่อลดภาระของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
อย่างไรก็ตาม กพช.ยังเห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ ปี 2565 เพื่อให้สถานการณ์การผลิตก๊าซธรรมชาติของแหล่งเอราวัณ (G1/61) ช่วงเปลี่ยนผ่านมีความต่อเนื่อง ไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศเนื่องจากกำลังการผลิตของก๊าซฯเริ่มลดลงมาอยู่ที่ระดับ 500-600 ล้านลูกบาศก์ฟุต(ลบ.ฟุต)ต่อวัน จากเดิม 800 ล้านลบ.ฟุต จึงจำเป็นต้องมีแนวางการบริหารปริมาณก๊าซฯ ดังนี้1.จัดหาก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมเต็มความสามารถของแหล่ง รวมถึงจัดทำสัญญาซื้อขายก๊าซเพิ่มเติมจากแหล่งก๊าซธรรมชาติที่มีศักยภาพ ทั้งแหล่งก๊าซในอ่าวไทย และในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย
2. การเลื่อนแผนการปลดโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เครื่องที่ 8 ออกไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 3. รับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนส่วนเพิ่มจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) และ/หรือผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) จากสัญญาเดิม กลุ่มชีวมวล ทั้งนี้ ควรมีอัตรารับซื้อไฟฟ้าไม่เกินกว่าอัตรารับซื้อไฟฟ้าในสัญญาเดิม
4. เปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิงน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาทดแทนก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม มาตรการทั้งหมดขึ้นอยู่กับ Generation Mix หรือศักยภาพของระบบส่งที่รองรับและความเพียงพอของการจัดหาเชื้อเพลิงตามฤดูกาล 5. รับซื้อไฟฟ้าจากโครงการพลังน้ำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)