พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่าย เสนอให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนใต้ ว่า จะไม่มีการใช้มาตรา 44 ในการควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากมีกฎอัยการศึก และพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ควบคุมอยู่แล้ว ส่วนสถานการณ์เหตุการณ์กราดยิงรถของผู้ใหญ่บ้าน และเหตุการณ์กราดยิงพลทหารเสียชีวิต เบื้องต้นได้รับรายงานว่า อาจจะเป็นเรื่องของการเมืองท้องถิ่น ซึ่งภายหลังจากนี้แม่ทัพภาค 4 จะส่งผลสรุปรายงานมายังตนเองอีกครั้ง
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึง มาตรการควบคุมและเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ว่า จะต้องให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูในพื้นที่ที่ศิษยานุศิษย์และพระสงฆ์กั้นและขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยยืนยันว่าต้องให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ที่ยังไม่สามารถเข้าไปให้ได้ ส่วนกรณีที่ทางวัดมีการขุดคูน้ำและตั้งสิ่งกีดขวางภายในพื้นที่นั้น รองนายกรัฐมนตรี เชื่อว่ามีเจตนาสร้างเพื่อกีดขวางการจราจรเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาตั้งเป็นค่ายหรือใช้ยุทธวิธีทางทหาร จึงมองว่าไม่เป็นไร
ขณะเดียวกัน รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ยังเปิดเผยว่า ในวันนี้ไม่มีการเสนอเรื่อง โครงการการจัดซื้อเรือดำน้ำ ของกองทัพเรือ เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ พร้อมระบุว่า พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2560 ได้ผ่านความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแล้ว ดังนั้น ขึ้นอยู่กับกองทัพเรือว่าจะเสนอเรื่องนี้เข้าที่ประชุมเมื่อไร