“อลงกรณ์ควงนราพัฒน์”หาเสียงช่วย”อิสรพงษ์”เขต1ชุมพร ชู4นโยบายปั้นชุมพรเป็นมหานครผลไม้ฮับกาแฟประตูการค้าท่องเที่ยวเกตเวย์ทะเลใต้
เหลืออีกสัปดาห์เดียวจะถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต1จังหวัดชุมพร ทำให้แกนนำพรรคลงพื้นที่หาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายกันอย่างคึกคัก
วันนี้(9มกราคม) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ นายสราวุธ อ่อนละมัย ส.ส.ชุมพร นางสาวบุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี และอิสรพงษ์ มากอำไพ ผู้สมัครหมายเลข 1พร้อมทีมงานพรรคประชาธิปัตย์ชุมพรเดินหน้าหาเสียงในเขตอำเภอเมืองและอำเภอสวีโดยสักการะศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์และพระบรมธาตุสวีระหว่างการลงพื้นที่พบวิสาหกิจชุมชนถ้ำสิงห์และร้านกาแฟถ้ำสิงห์เขามัทซีเป็นกลุ่มผลิตและจำหน่ายกาแฟโรบัสต้า กลุ่มประมงหาดทรายรีชุมพร กลุ่มผู้ประกอบการผลไม้ในอำเภอสวีก่อนปราศรัยย่อยในเขตเทศบาลเมืองโดยนายอลงกรณ์กล่าวว่า ชุมพรเป็นจังหวัดที่มีอนาคตเพราะมีศักยภาพสูงทั้งด้านการเกษตรการค้าการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมแปรรูป ในอดีตที่ผ่านมามีการพัฒนาเมืองพัฒนาเศรษฐกิจจนชาวชุมพรมีรายได้ต่อหัว230,000บาทต่อปีสูงเป็นอันดับ15ของประเทศพรรคประชาธิปัตย์ยุคอุดมการณ์-ทันสมัยภายใต้การนำของหัวหน้าพรรคนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และเลขาธิการพรรค ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อนมั่นใจว่า ชุมพรสามารถต่อยอดศักยภาพเดิมเพิ่มศักยภาพใหม่เพิ่มรายได้ต่อหัวของประชาชนสู่จังหวัดท็อปเทนของประเทศด้วย4นโยบายเศรษฐกิจและการพัฒนา
1.นโยบายมหานครผลไม้ของภาคใต้เช่นเดียวกับจันทบุรีในภาคตะวันออก ปี2564เพียง10เดือนเราส่งออกผลไม้คิดเป็นมูลค่าเกือบ1.5แสนล้านสูงสุดในประวัติศาสตร์เป็นผลไม้จากภาคใต้และภาคตะวันออกเป็นส่วนใหญ่
2.ฮับกาแฟโรบัสต้าอันดับหนึ่งของประเทศเพื่อสร้างแบรนด์สร้างมูลค่ากาแฟโรบัสต้าที่ชุมพรผลิตได้มากเป็นอันดับ1สู่กาแฟมูลค่าสูงทั้งตลาดในและต่างประเทศ
3.ประตูท่องเที่ยวเกตเวย์ทะเลใต้ ชุมพรเป็นประตูสู่ภาคใต้และยังมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวทางทะเลมีสนามบินมีท่าเรือบริการเชื่อมเกาะและหมู่เกาะในอ่าวไทยเช่นเกาะสมุยและหมู่เกาะอ่างทองโดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติชุมพรมีเกาะกว่า40เกาะ เช่นเกาะทะลุ เกาะงามใหญ่ เกาะง่ามน้อย เกาะลังกาจิว ถือเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำ
4.สะพานเศรษฐกิจ”ชุมพร-ระนอง”เชื่อม”อ่าวไทย-อันดามัน”เพื่อขยายฐานเศรษฐกิจการค้าไปสู่ประเทศด้านทะเลอันดามันและอ่าวเบงกอล7ประเทศคือเมียนมาร์ บังคลาเทศ อินเดีย ศรีลังกา อินโดนีเซีย มาเลเซียและไทย โดยมีท่าเรือระนองเป็นฐานฝั่งอันดามันและชุมพรเป็นฐานด้านอ่าวไทย
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อไปว่า การขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวต้องผนึกพลังกับองค์กรปกครองท้องถิ่นเช่น อบจ.ชุมพรและทุกภาคีภาคส่วน
โดยเฉพาะพลังคนรุ่นใหม่เช่นนายอิสรพงษ์ มากอำไพ ผู้สมัครหมายเลข 1 เป็นคนที่มีความรู้มีโลกทัศน์ผ่านการศึกษาทั้งในและต่างประเทศเข้าใจถึงวิสัยทัศน์อนาคตและมีประสบการณ์ด้านการบริหารจะเป็นกำลังสำคัญของจังหวัดชุมพรและประเทศชาติจึงขอโอกาสจากชาวชุมพรเลือกเป็นส.ส.เขต1ในวันที่16 ม.ค.นี้เช่นเดียวกับที่เคยให้โอกาสอดีต ส.ส.ชุมพล จุลใส มาแล้ว
พรรคประชาธิปัตย์ได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วในการบริหารประเทศ2ปีกว่าที่ผ่านมาสามารถขับเคลื่อนนโยบายประกันรายได้พืชเศรษฐกิจ5ชนิดได้แก่ยางพารา ปาล์ม ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็วและช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร8ล้านครัวเรือนๆละ1.5หมื่นบาทที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19อย่างฉับไวจนไม่มีคำปรามาสในอดีตที่ว่าประชาธิปัตย์ดีแต่พูดหรือเชื่องช้า และยังเป็นหลักของรัฐบาลในการสร้างรายได้นำเงินเข้าประเทศกว่า8ล้านล้านบาทจากการส่งออกที่เติบโต16%เกินเป้าหมายที่รัฐบาลเคยกำหนดไว้ที่4%ถึง4เท่าตัวและยังผลักดันการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนตามสถิติ 9 เดือน ม.ค.-ก.ย.2564 สามารถส่งออกได้ถึง 778,367 ล้านบาท ขยายตัว 38.06% โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารเป็นแชมป์การส่งออกแม้จะเผขิญกับวิกกฤติการณ์เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกจนผลโพลของประชาชนยกให้รัฐมนตรีและกระทรวงเกษตรกับกระทรวงพาณิชย์เป็นกระทรวงที่มีผลงานเป็นที่ชื่นชอบอันดับ1ของประเทศซึ่งเป็นผลงานที่สะท้อนการทำงานยุคใหม่ทำได้ไวทำได้จริงเราทำได้ของพรรคประชาธิปัตย์
ทางด้านนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือกล่าวว่า การเลือกตั้งเป็นวิถีทางประชาธิปไตยของประชาชนโดยประชาชนเพื่อประชาชนอย่ายอมให้ใครมาบีบบังคับด้วยอำนาจบาตรใหญ่ขอให้เชื่อมั่นในอำนาจของประชาชน และขอให้เจ้าหน้าที่รัฐวางตัวเป็นกลางและเที่ยงธรรม
เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างแท้จริง