การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ด้านพลังงานโลกยังมีความผันผวน ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (Liquefied Petroleum Gas: LPG) หรือก๊าซหุงต้ม หรือก๊าซ LPG ตลาดโลกที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดย ณ วันที่ 5 มกราคม 2565 อยู่ที่ 682.90 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน เทียบได้กับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ที่ 412 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม อย่างไรก็ตามรัฐบาลยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งยังส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพและภาระค่าครองชีพของประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำเติมปัญหาและดูแลประชาชนไม่ให้รับความเดือนร้อนในเรื่องก๊าซ LPG ที่ประชุม กบง. จึงมีมติเห็นชอบการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ LPG โดยให้คงราคาไว้ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ไปถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ ฝ่ายเลขานุการฯ ประสานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อพิจารณาบริหารจัดการเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับแนวทางการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ LPG ต่อไป และขอความร่วมมือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) พิจารณาช่วยเหลือส่วนลดราคาก๊าซ LPG แก่ผู้มีรายได้น้อยที่เป็นร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหารผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ ปตท. ดำเนินการต่อไปจนถึง วันที่ 31 มีนาคม 2565
นายกุลิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม กบง. ยังมีมติเห็นชอบการบรรเทาผลกระทบจากราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (Natural Gas for Vehicles หรือ NGV) ที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยขอความอนุเคราะห์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คงราคาขายปลีกก๊าซ NGV ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม และคงราคาขายปลีกก๊าซ NGV โครงการ “เอ็นจีวี เพื่อลมหายใจเดียวกัน” ให้กับผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัมต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2565