เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 65 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงข่าวกรณี กกต. มีคำวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งซ่อมลำปางเขต 4 เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ไม่บริสุทธ์ ยุติธรรม จึงมีความเห็นส่งเรื่องให้ศาลฎีกา โดยให้ใบเหลืองไว้ก่อน ซึ่งเป็นกรณีที่ผู้สมัครคนเดิมยังลงแข่งขันได้ ถ้าเทียบกับกรณีของผู้สมัครที่เชียงใหม่ จึงอยากให้ศาลฎีกาตัดสินให้เข้มขึ้น เนื่องจากเป็นเรื่องซื้อเสียงที่ชัดเจน เนื่องจากการเลือกครั้งนั้น พรรคอนาคตใหม่และเพื่อไทยลงสมัครแข่งขันไม่ได้ เสรีรวมไทยจึงเป็นพรรคเดียวของฝ่ายค้าน ซึ่งเมื่อครั้งลงพื้นที่ ตนก็ไปหาเสียงด้วยตลอด และไม่เคยเห็นนายวัฒนาลงพื้นที่หาเสียงเลย และในระหว่างหาเสียงก็มีประชาชนแจ้งว่า มีการแจกเงินกันแล้ว ตนจึงขอความร่วมมือว่า ให้ช่วยกันจับทุจริต เนื่องจากสมัยนี้มีมือถือที่ใช้บันทึกได้ และขอให้ส่งมา จะช่วยกันดูแลความปลอดภัยให้ ปรากฏว่า มีผู้ถ่ายคลิปนางเกี๋ยงมา มาแจกเงินและขอให้เลือกเบอร์ 1 อย่างชัดเจน จากนั้นตนจึงได้รับคลิปดังกล่าวส่งมา นอกจากนี้ ยังมีวิธีการซื้อเสียงที่มีการจดเลขบัตรประชาชนและรับเงินเป็นขั้นตอน โดยมีผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้จัดแจง ดังนั้น กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา มีความรับผิดชอบอย่างใดหรือไม่
ด้าน พล.ต.ท.วิศณุ ม่วงแพรศรี ผู้รับผิดชอบในการหาสียงที่อำเภอเสริมงาม กล่าวเพิ่มเติมว่า มีการทุจริตทั้งซื้อผู้สมัครไม่ให้ลงเลือกตั้ง ซื้อหน่วยเลือกตั้ง ครั้นตอนนับคะแนน พรรคเสรีรวมไทยก็ถูกนับคะแนนผิดเป็นอย่างมาก ช่วงเลือกตั้งมีประชาชนเปิดเพจต่อต้านการเลือกตั้ง แต่ถูกค้นบ้านโดยอ้างว่า เป็นผู้ติดยาเสพติด นอกจากนั้น ยังมี ส.จ. 3 คน มาพบหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยเพื่อแจ้งการทุจริต นอกจากนี้ มีชายกลุ่มหนึ่งนำกล่องคาดว่า ใส่เงินมา สารวัตรสืบที่รับผิดชอบ ก็ขอตรวจ แต่กลับถูกผู้บังคับบัญชาถามว่า จะต่อต้านการซื้อเสียงหรือ ส่วนอำเภอเถินที่เกิดเหตุ ตนได้รวบรวมพยานหลักฐานและไปแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งเป็นหน้าที่ของ กกต. และตนได้ไปให้การ แต่ปัญหาคือ กกต. กลับเรียกสำนวนไปสอบสวนเอง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนั้นได้รวบรวมข้อมูลและขอพบผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เพื่อขอให้ย้ายนายอำเภอเสริมงาม แต่ผู้ว่าฯ อ้างว่าป่วย เข้า รพฟ. ผู้ว่าฯ หมูป่าสร้างภาพอย่างเดียว ถึงเวลาคับขันไม่ทำอะไร กระทั่งถึงเวลาสอบสวน กกต. มีอำนาจที่จะยับยั้งการประกาศไว้ได้ หากมีการร้องเรียน แต่กลับรีบประกาศให้นายวัฒนา เป็น ส.ส. ภายใน 1 เดือน รับรองผลให้ คนพลังประชารัฐเป็น ส.ส.
"อยากให้สังเกตระยะเวลาการสอบสวนของ กกต.ให้ดี กกต.มีระยะเวลา 1 ปี แต่ครั้งนี้วินิจฉัย 1 ปี 4 เดือน จาก พ.ย.-ม.ค. ถึงจะประกาศ ช่วยกันดึงเวลามาตลอด รัฐเสียหายทั้งนั้น จากนี้ผมจะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับ กกต. เนื่องจากไม่ดำเนินการตามขั้นตอน และขอตำหนิว่า กกต. ว่า ไม่รู้ได้อย่างไรว่า เงินที่ซื้อเสียงมาจากไหน และผมยังได้ร้องเรียนนายธรรมนัส กรณีลงมาหาเสียงว่าจะทำฝาย ทำอะไร ส่วนพลเอกประวิตร ไปประชุมเรียกนายอำเภอไปประชุมปัญหาภัยแล้ง การที่วินิจฉัยว่า ไม่มีใครผิดเลยเข้าข่ายช่วยเหลือและทำให้รัฐเสียหาย ไม่ดำเนินการตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งก็จะต้องส่งเรื่องไปที่สำนักงาน ป.ป.ช. ก็หวังว่า คงจะมีผู้รักความเป็นธรรมบ้าง ทรงความยุติธรรมได้บ้าง" หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าว
ส่วนจะแจ้งความกับ กกต.เมื่อไหร่นั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่าขณะนี้พรรคอยู่ระหว่างร่างหนังสือยื่นยุบพรรคพลังประชารัฐ กรณีส่งนายสิระ เจนจาคะ ลงสมัครเป็น ส.ส. ในนามพรรคพลังประชารัฐ หากแล้วเสร็จเมื่อไหร่ก็จะดำเนินการเรื่องนี้ต่อทันที
ส่วนพรรคเสรีรวมไทย จะจับตาการการทำงานของ กกต.ในการเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่ด้วยหรือไม่นั้น เรื่องนี้ตนคงตรวจสอบไม่ได้เพราะไม่ใช่หน้าที่โดยตรง
ส่วนท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลที่ปราศรัยโต้กันไปมาระหว่างลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งซ่อมภาคใต้นั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่าหากตนเป็นพรรคประชาธิปัตย์คงลาออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลตั้งนานแล้ว แต่ก็เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ลาออกเพราะยังอยากคงสถานะและอยากมีตำแหน่งในพรรคร่วมรัฐบาล หากลาออกแล้วเลือกตั้งใหม่อาจไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีเหมือนที่เป็นอยู่ในขณะนี้