หน.อช.ทองผาภูมิ เข้าแจ้งความ แก๊ง 5 นายพรานโหด ฆ่าชำแหละถลกหนังเสือ เพิ่มอีก 1 ข้อหา เหตุนำวัวไปเลี้ยงในเขตอุทยานฯ ส่วนผลพิสูจน์พบเสือถูกยิงด้วยลูกซอง จนท.อปพร.โดนฐานให้การสนับสนุน
จากกรณีที่ 5 นายพรานใจโหด ตั้งแคมป์ ขุดหลุมดักเสือโคร่ง นำวัวมาเป็นเหยื่อล่อให้ออกจากป่ามากินเป็นอาหาร แล้วใช้อาวุธปืนยิงเสือ 2 ตัว เสียชีวิต แล้วนำมาแร่เนื้อถลกเอาหนัง ขณะพนักงานพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ กำลังเข้าจับกุม แต่กลุ่มนายพรานเกิดไหวตัวทันวิ่งหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด สำหรับของกลางที่ตรวจยึดเอาไว้ได้ประกอบด้วย ซากเสือโคร่ง จำนวน 2 ซาก น้ำหนัก 52.5 กิโลกรัม อาวุธปืนลูกซองยาว จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนยาว ขนาด .22 ติดลำกล้อง จำนวน 1 กระบอก อาวุธยาวไทยประดิษฐ์ (ปืนแก๊ป) จำนวน 2 กระบอก กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 50 นัด และปลอกกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 5 ปลอก เหตุเกิดที่บริเวณป่าห้วยปิล๊อก หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และป่าสงวนแห่งชาติเขาช้างเผือก ระหว่างวันที่ 8-11 มกราคม 2565
ต่อมาวันที่ 13 ม.ค.65 ผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คน ได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ประกอบด้วย นายกูกือ ยินดี, นายจอแห่ง พนารักษ์, นายศุภชัย เจริญทรัพย์, นายรัชชานนท์ เจริญทรัพย์ และ นายโชเอ ไม่มีนามสกุล โดยทั้งหมดอ้างว่า ที่ลงมือก่อเหตุยิงเสือ เนื่องจากเสือโคร่งทั้ง 2 ตัวไปกัดวัว-ควายของชาวบ้านตายไปหลายตัว ด้วยความโกรธจึงได้ดักซุ่มยิงทิ้ง เพื่อไม่ให้มากินวัวของพวกตนอีก
ล่าสุดวันนี้ 15 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ธรรม เข็มทอง รอง.สว.(สอบสวน) สภ.ปิล๊อก เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ 5 ผู้ต้องหาแก๊งล่าเสือโคร่ง เพิ่มอีก 1 ข้อหา รวมเป็น 11 ข้อหา
โดย นายเจริญ เผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่าได้กระทำการนำสัตว์เลี้ยง ชนิดโค และกระบือ เข้าไปเลี้ยงในพื้นที่ป่ารวมทั้งการใช้ล่อเพื่อการล่าสัตว์ป่า ซึ่งตนเองทราบดีว่าเป็นพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติ และในวันเกิดเหตุคณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบสุนัขเลี้ยงของผู้ต้องหาส่งสัญญาณเสียงเห่าหอนแจ้งเตือนให้หลบหนีการตรวจจับกุม จึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 21 ประกอบมาตรา 48 วรรคสอง ฐานร่วมกันนำหรือปล่อยสัตว์เข้าไปในอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นสัตว์ที่เป็นอันตรายหรือก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศอย่างรุนแรงในอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีความผิด ตามมาตรา 48 วรรค 2 บทลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยมอบให้ นายวันชัย สูนคำ พนักงานพิทักษ์ป่า เป็นผู้แจ้งร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องให้การว่า อาวุธปืนลูกซอง 5 นัด ยี่ห้อวินเชสเตอร์ หมายเลขประจำปืน 1526415 ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ยืมมาจาก นายบุญถิ่น จันทร์เขต เจ้าหน้าที่ อปพร.โดยยืมมาเอาไว้เพื่อป้องกันตัวเท่านั้น ซึ่งกรณีนี้หากผลพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจ ออกมาว่า เสือโคร่งที่เสียชีวิตทั้ง 2 ตัว ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกกระบอกดังกล่าว โดยไม่ใช่ถูกยิงจากปืนแก๊ปตามที่กลุ่มผู้ต้องหากล่าวอ้าง ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จะดำเนินการเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายบุญถิ่น จันทร์เขต เจ้าหน้าที่ อปพร. ฐาน เป็นผู้กระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวก หรือสนับสนุน ระวางโทษ 2 ใน 3 ของความผิดที่ได้สนับสนุน ด้วยเช่นกัน
ทีมข่าวกาญจนบุรี