พลตรีธานี ฉุยฉาย ที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยว่า ในช่วงกลางเดือนเม.ย. ที่จะถึงนี้ กอร.รส. มีแผนที่จะปรับระบบการเข้าคิวกราบถวายบังคมพระบรมศพเนื่องจากต้องมีการคืนพื้นที่ท้องสนามหลวง ซึ่เป็นเต็นท์พักคอยของประชาชนเพื่อจัดเตรียมพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ โดยจะยังคง 13 เต็นท์ด้านหน้าประตูวิเศษไชยศรี ไว้ แต่จะรื้อย้ายเต็นท์พักคอยในสนามหลวงด้านทิศเหนือออกทั้งหมด และตั้งเต็นท์แนวต้นมะขามรอบสนามหลวงแทน ซึ่งโดยรวมจะมีเก้าอี้ให้ประชาชนได้นั่งคอย จำนวนทั้งสิ้น 2,600 ตัว ซึ่งจากสถิติการเดินทางมาของประชาชนทุกวันนี้พบว่าในแต่ละชั่วโมงมีประชาชนรอคอยเพียง 1,000-1,500 ยกเว้นในช่วงเช้าที่จะมีประชาชนจากต่างจังหวัดมาเป็นจำนวนมาก แต่ก็คาดว่าจะสามารถรองรับได้ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
ในช่วงนี้อากาศเริ่มแปรปรวน และร้อนมากขึ้น โดยพบประชาชนที่มารอกราบถวายบังคมพระบรมศพมีอาการเป็นลมวันละหลายราย ดังนั้น กทม. จึงได้เตรียมดำเนินการย้ายเต็นท์รอคอยบริเวณสนามหลวงบางส่วน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก รวมทั้งจัดทำแผ่นพับเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนดูแลตนเองในช่วงอากาศร้อน การป้องกันอาการ Heatstroke หรือ โรคลมร้อน รวมทั้งเตรียมความพร้อมทางด้านการบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินไว้ด้วย
พลตรีธานี ยังได้เปิดเผยภายหลังการประชุมกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ซึ่งมี พลตรีพงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นประธานการประชุมว่า ภายหลังจากที่กระทรวงวัฒนธรรมจัดเจ้าหน้าที่สายตรวจวัฒนธรรมลงพื้นที่ท้องสนามหลวงเพื่อตรวจสอบความเหมาะสมเครื่องแต่งกายของประชาชนที่เดินทางมาเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยวันที่ 6 มี.ค.พบประชาชนแต่งกายไม่เหมาะสม จำนวน 170 คน วันที่ 7 มี.ค. พบ 115 คน ซึ่งในเบื้องต้นสายตรวจวัฒนธรรมได้แจ้งให้ประชาชนที่แต่งกายไม่เหมาะสมได้ยืมผ้าถุง ณ เต็นท์ยืมผ้าถุง อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนที่ประสงค์เดินทางมาเข้ากราบพระบรมศพแต่งกายสุภาพ ควรสวมเสื้อที่มีปก สวมกระโปรงยาวคลุมเข่า ไม่สวมกางเกงยีน และรองเท้าแตะ สำหรับผู้หญิงซึ่งสวมเสื้อที่เป็นผ้าโปร่ง หรือลูกไม้ และมีซับในเป็นเสื้อแขนกุดอยู่ด้านใน ถึงแม้จะเป็นเสื้อแขนยาวแต่ก็ดูไม่เหมาะสม และกระโปรงถึงแม้จะเป็นลูกไม้ยาวคลุมเข่าแต่ซับในสั้นเหนือเข่าก็จะไม่เหมาะสมเช่น ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนแต่งกายให้เหมาะสมเพื่อเป็นการเคารพสถานที่