นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวถึงกรณีการเกิดเหตุเพลิงไหม้สถานที่กำจัดขยะมูลฝอยช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปีว่า ส่วนใหญ่เกิดจากลักษณะภูมิอากาศของประเทศไทยช่วงนี้มีอากาศร้อนและแล้ง ส่งผลให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ได้ง่าย โดย คพ. ได้รวบรวมข้อมูลสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยที่มีปริมาณสะสมในพื้นที่เป็นจำนวนมากและดำเนินการอย่างไม่ถูกต้องทั่วประเทศ รวมทั้ง สถานที่แปรรูปเชื้อเพลิงขยะ (RDF) ทุกขนาด ที่มีความเสี่ยงเกิดเหตุเพลิงไหม้ จากการเผาขยะมูลฝอยกลางแจ้ง หรือการเผาเพื่อนำเศษขยะมูลฝอยที่มีค่าไปจำหน่าย การลักลอบเผาพื้นที่เกษตรกรรมในบริเวณใกล้เคียงที่อาจลุกลามมายังสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยดังกล่าว ซึ่งจะเกิดก๊าซพิษต่าง ๆ เช่น ฝุ่น PM2.5 ก๊าซไฮโดรเจนคลอไรด์ และก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ที่กระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึง ไดออกซิน ที่เป็นสารก่อมะเร็ง จึงแจ้งให้เฝ้าระวังและห้ามเผาบ่อขยะโดยเด็ดขาด กรณีประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยพบสิ่งผิดปกติ เช่น มีควันหรือกลิ่นเหม็นไหม้ มีไอน้ำร้อนลอยตัวขึ้นมาจากชั้นขยะมูลฝอยมากผิดปกติ ท่อระบายอากาศในแนวตั้งมีลักษณะโค้งงอเนื่องจากความร้อนในบ่อกำจัดขยะมูลฝอย หรือมีน้ำมันสีดำหรือสีน้ำตาลเข้มไหลออกมาจากบ่อกำจัดขยะมูลฝอย ให้รีบแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยเร็ว
ทั้งนี้ หากพบเหตุเพลิงไหม้สถานที่กำจัดขยะมูลฝอยให้แจ้ง อปท. และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทันที เพื่อร่วมกันระงับเหตุเพลิงไหม้ในพื้นที่ พร้อมแจ้ง คพ. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1650 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่หาแนวทางและมาตรการป้องกันสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชนในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงที่อาจได้รับ