นายสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์มีนโยบายเข้มงวด ตรวจจับการลักลอบนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ (ซากสัตว์) อย่างเคร่งครัด โดยให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานคลอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศตามโครงการตรวจสอบห้องเย็นเพื่อปราบปรามขบวนการลักลอบนำเข้าซากสัตว์ ลงพื้นที่ร่วมกับด่านกักกันสัตว์ในพื้นที่ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ กองสารวัตรและกักกัน กรมปศุสัตว์ ได้เข้าตรวจสอบห้องเย็นตามข้อร้องเรียนว่ามีการกระทำความผิดตามกฎหมายพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ในพื้นที่ ต.สวนพริกไทย อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งผลจากการตรวจสอบในพื้นที่พบซากสัตว์ (เนื้อโคและเนื้อแพะแช่แข็ง) นำเข้าราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 จำนวน 139 กล่อง กล่องละ 20 กิโลกรัม รวมทั้งหมด 2,780 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการอายัดซากสัตว์ไว้และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวต่อว่า กรมปศุสัตว์มีความตระหนักถึงการป้องกันเชื้อโรคระบาดสัตว์จากต่างประเทศ ซึ่งอาจติดมากับสินค้าปศุสัตว์ (ซากสัตว์) ที่เป็นพาหะของโรคระบาด และมีความห่วงใยในสุขภาพของประชาชนทั่วไป โดยสินค้าปศุสัตว์ทุกชนิดที่นำมาจำหน่ายต้องได้รับการตรวจรับรองเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและผู้บริโภคสินค้าปศุสัตว์ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งสินค้าปศุสัตว์ (ซากสัตว์) ที่ถูกลักลอบนำเข้าราชอาณาจักรมานั้น อาจมาจากต้นทางที่เป็นแหล่งของโรคระบาดสัตว์และไม่มีการควบคุมการผลิต รวมถึงไม่ได้รับการตรวจรับรอง ไม่สามารถทำการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาแน่ชัดได้เมื่อกรณีเกิดปัญหาด้านความปลอดภัยอาหาร จึงขอฝากไปยังผู้ประกอบการร้านอาหารและประชาชนทุกท่าน ได้โปรดเลือกซื้อเนื้อสัตว์ที่ได้มาตรฐานการผลิตและสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้สร้างทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค
โดยจัดทำโครงการปศุสัตว์ OK และหากประชาชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือพบเห็นการกระทำผิดด้านปศุสัตว์ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับข้อมูล หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยแจ้งผ่านแอพพลิเคชั่น DLD 4.0 หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 06-3225-6888 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง