สุดรันทด ยายวัย 60 ปี ชาว ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมน้องสาวพิการ และเจ้าอาวาสวัดบ้านนาโก ซึ่งเป็นน้องชาย เข้าขอความช่วยเหลือจากสำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ หลังถูกฟ้องล้มละลายไม่รู้ตัว เหตุให้ลูกชายนำที่สำเนาที่ดินไปค้ำประกันกับไฟแนนซ์ให้ลูกชายออกรถเมื่อ 10 ปีก่อน สุดท้ายขาดส่งงวด รถถูกยึด ล่าสุดทั้งบ้านพร้อมที่ดินถูกขายทอดตลาด นายทุนขีดเส้นตายวันที่ 30 มกราคม 65 ให้ออกจากบ้าน กลายเป็นคนไร้ที่พึ่ง เกาะชายผ้าเหลืองน้องชายขอความช่วยเหลือจากสำนักงานยุติธรรม
เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2565 ที่ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ หลวงพ่อสมพจน์ ปัญญาปโชโต เจ้าอาวาสวัดเกตราม บ้านนาโก ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ได้พร้อมนางบุญสด อนันตพัฒน์ อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 10 หมู่ 4 บ้านนาโก ต.ขมิ้น และนางกฎ ตาเมือง อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 73 หมู่ 4 บ้านนาโก ซึ่งร่างกายพิการ เดินขากะเผลก โดยทั้ง 2 คนเป็นพี่สาว ได้เข้าขอคำปรึกษาและความช่วยเหลือกับสำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ โดยมีนายชุติเดช เสน่ห์วงษ์ เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานยุติธรรม และทนายความที่ปรึกษาประจำสำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ รับเรื่องและให้คำปรึกษาหลวงพ่อสมพจน์ ปัญญาปโชโต เจ้าอาวาสวัดเกตราม บ้านนาโก ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ได้พาพี่สาวมาขอคำปรึกษาและความช่วยเหลือจากสำนักงานยุติธรรมในครั้งนี้ เนื่องจากนางบุญสด กำลังจะถูกไล่ที่ โดยบ้านพร้อมที่ดินจำนวน 9 ไร่ เคยเอาไปจำนองกับ ธกส.กาฬสินธุ์เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ต่อมาประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา นายทศพร อนันตพัฒน์ลูกชายนางบุญสด ได้ไปเช่าซื้อรถกระบะจากไฟแนนซ์แห่งหนึ่งในตัวเมืองกาฬสินธุ์ เพื่อที่จะพานางบุญสดค้าขายผักผลไม้ ทั้งนี้นางบุญสดได้เป็นผู้ค้ำประกันให้ลูกชาย โดยนำสำเนาที่ดินเป็นหลักฐานค้ำประกันด้วย แต่สุดท้ายไม่สามารถส่งชำระงวดรถได้ รถจึงถูกไฟแนนซ์ยึด
“ต่อมานายทศพรไปทำมาหากินที่อื่น ขณะที่นางบุญสดอยู่บ้านกับสามี หารายได้เลี้ยงชีพด้วยการทำนาและรับจ้างหาของเก่าขาย ก่อนที่เมื่อปลายเดือน ธ.ค.64 ตนได้ทราบว่านางบุญสดพี่สาวกำลังจะถูกไล่ที่ เพราะทางไฟแนนซ์ฟ้องร้อง และกองบังคับคดีได้ขายทอดตลาดไปแล้ว ทำให้นางบุญสดไม่มีที่อยู่ จึงได้พามาขอคำปรึกษาสำนักงานยุติธรรม เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป ซึ่งหากถูกไล่ที่จริงๆ ก็คงจะไปอยู่วัดก่อน และอยากจะบิณฑบาตไปถึงญาติโยม ประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ช่วยเหลือคนละเล็กละน้อย เพื่อหาที่ปลูกสร้างบ้านหลังใหม่ให้พอได้ซุกหัวนอน” หลวงพ่อสมพจน์กล่าว
ด้านนางกฎ ตาเมือง อายุ 58 ปี น้องสาวนางบุญสด กล่าวว่า เมื่อเรื่องเลยเถิดมาถึงขั้นนี้ โดยบ้านพร้อมที่ดินของนางบุญสดที่พ่อแม่แบ่งแยกให้ ถูกกองบังคับคดีขายทอดตลาดและมีผู้มาซื้อไปแล้ว ซึ่งทราบเรื่องเมื่อเดือน ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา โดยคนที่มาซื้อได้แจ้งให้นางบุญสดขนสิ่งของออกจากบ้าน กำหนดวันสุดท้าย 30 ม.ค.65 ทำให้นางบุญสดและตน ซึ่งเป็นคนพิการ เนื่องจากผ่าตัดสมองและเดินขากะเผลก ได้รับความเดือดร้อน ขาดที่พึ่ง จึงได้มาขอความช่วยเหลือจากสำนักงานยุติธรรมในครั้งนี้
ขณะที่นางบุญสด อนันตพัฒน์ อายุ 60 ปี กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนไม่ทราบเรื่องเลยจริงๆ ว่าทางไฟแนนซ์จะฟ้องร้องตน ในฐานะคนค้ำประกันให้ลูกชายเช่าซื้อรถ จนกระทั่งเข้าสู่กระบวนการทางคดี โดยมีการยึดทรัพย์และขายทอดตลาด เนื่องจากตนเป็นคนแก่ ความรู้แค่ ป.4 ไม่มีความรู้ จะไปปรึกษาใครก็อับจนหนทาง ทั้งนี้ เคยต่อรองและขอความเห็นใจกับคนที่มาซื้อบ้านพร้อมที่ดิน กลับได้รับคำตอบว่าต้องหาเงินมาซื้อคืนจำนวน 1 ล้าน 8 แสนบาท ซึ่งเงินจำนวนมากขนาดนี้ ตนไม่มีที่จะซื้อที่ดินพร้อมบ้านของตนกลับคืนมาแน่นอน เพราะฐานะยากจน ลำพังที่จะอยู่จะกินทุกวันนี้ยังลำบาก จึงได้มาปรึกษาและขอความช่วยเหลือจากสำนักงานยุติธรรมดังกล่าว
นายชุติเดช เสน่ห์วงษ์ เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานยุติธรรม กล่าวว่า เมื่อเรื่องราวผ่านกระบวนการมาแล้ว ก็คงจะย้อนกลับไปไต่สวนหรือพิจารณาอื่นใดไม่ได้อีก ทั้งนี้ เท่าที่ดูเอกสารของเรื่องนี้ ทราบว่ามีการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ลำดับต่อไปก็คงจะเป็นในส่วนของการพูดคุยกัน ระหว่างนางบุญสดกับเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงนั้นคนใหม่ ในช่วงที่รอโอกาสหาที่อยู่แห่งใหม่ว่า จะยื้อเวลาให้นางบุญสดอาศัยต่อไปอีกสักระยะได้ไหม หรือไม่ก็ขายคืนให้กับนางบุญสด ในราคาที่สามารถตกลงกันได้ แต่เป็นไปได้ยากเนื่องจากทราบว่าตั้งราคาไว้สูงถึง 1 ล้าน 8 แสนบาท ทั้งนี้ก็จะประสานกับเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือคนที่มาซื้อที่ดินของนางบุญสด เพื่อขอเจรจาต่อรองต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่หลวงพ่อสมพจน์ ปัญญาปโชโต นางบุญสด อนันตพัฒน์ และนางกฎ ตาเมือง 3 พี่น้อง ได้บิณฑบาตและขอความช่วยเหลือจากสังคม หวังน้ำใจจากผู้จิตศรัทธา ร่วมบริจาค ชวยเหลือ ในช่วงไร้ที่พึ่ง ก็สามารถที่จะทำได้ โดยโอนผ่าน ธนาคาร ธกส.สาขากาฬสินธุ์ ชื่อบัญชีนางบุญสด อนันตพัฒน์ เลขที่ 010322078212
ทีมข่าวกาฬสินธุ์