ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ ที่ยังปักหลักชุมนุมหน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก ได้ออกแถลงการณ์โดยมีใจความว่า หลังจากข้อเรียกร้องเชิงนโยบายทั้งหมด 15 ข้อของ ขปส. ยังไม่ได้รับการตอบรับจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการแก้ไขปัญหาของ ขปส. เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ขปส.จึงยกระดับเคลื่อนขบวนไปที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ถูกสกัดกั้นโดยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เราไม่สามารถเคลื่อนขบวนไปติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาได้ และต้องปักหลักอยู่บนสะพานกว่า 3 ชั่วโมง ในที่สุดได้มี พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ที่อ้างว่าได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประวิตร มารับหนังสือข้อเรียกร้องเพิ่มเติมของ ขปส. และยืนยันว่าไม่สามารถนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในวันที่ 24 ม.ค.นี้ ขปส. เห็นว่าการสกัดกั้นขบวนของเราสะท้อนชัดเจนว่าบรรยากาศการเมืองแบบเผด็จการได้ปิดทางประตูสู่การแก้ไขปัญหาของภาคประชาชนทุกกลุ่ม และการส่งผู้แทนหน้าใหม่มาเจรจากับ ขปส.นั้น อาจหมายถึงการต้องเริ่มต้นกระบวนการแก้ไขปัญหาใหม่ ทั้งที่เราได้ดำเนินการแก้ปัญหาร่วมกับรัฐบาลมาแล้วอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเป็นเช่นนี้ ขปส. จึงขอประกาศเจตนารมณ์และแสดงจุดยืนของเราในวันนี้ 2 ข้อ ได้แก่ 1.พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ ต้องแถลงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องทั้งหมดอย่างเป็นทางการ และต้องทำหน้าที่ประสานงานให้ พล.อ.ประวิตร มาพบกับ ขปส. ณ ที่ปักหลักชุมนุม ก่อนการประชุม ครม.ในวันที่ 24 ม.ค.นี้ 2.ขปส.ยืนยันว่าข้อเรียกร้องทวงคืนสิทธิทั้ง 15 ข้อ จะต้องเข้าสู่การพิจารณาให้ความเห็นชอบของ ครม.ในวันที่ 24 ม.ค.นี้เท่านั้น เมื่อการเคลื่อนไหวครั้งนี้ พวกเรามาเพื่อทวงสิทธิและสร้างอำนาจกำหนดชีวิตประชาชน เราจึงขอส่งสัญญาณเตือนไปยังรัฐบาลนี้อีกครั้งว่าหากยังเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้อง วันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการระดมเครือข่ายประชาชนทุกกลุ่ม และจะยกระดับการเคลื่อนไหวเพื่อทวงคืนชีวิตของพวกเรากลับคืนอย่างถอนรากถอนโคนแน่นอน