เมื่อ วันที่ 24 ม.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการค้าขายเนื้อหมู เนื้อวัว ในตลาดสดเทศบาล 3 ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ไม่คึกคัก เนื่องจากราคาเนื้อหมูแพงขึ้นมาก ร้านค้าร้านขายอาหารซื้อน้อยลง ยอดขายตก ส่วนแม่ค้าขายเนื้อวัวก็ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ร้านขายอาหาร ลาบ ก้อย ถูกห้ามขายเหล้าเบียร์ ก็ขายไม่ดี ยอดขายลดลง
นายวุฒิโรจน์ ไชยมณี อายุ 46 ปี พ่อค้าหมู ชาวชุมชนทุ่งนาดี ต.เมืองเหนือ อ.เมืองศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ยอดขายลดลงมาก ร้านขายอาหารซื้อหมูไปทำอาหารก็ซื้อน้อยลง คนหันไปกินอย่างอื่น ก่อนหน้านั้นมีเงินเยียวยาคนละครึ่งก็ดีหน่อย พอขายได้ พอคนละครึ่งหมดยอดขายก็หายไปกับคนละครึ่ง ราคาหมูหน้าฟาร์มขึ้นมาก ไม่เคยเจอมาก่อนเลยแบบนี้ เมื่อก่อนนี้ ตนขายหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท ตอนนี้ต้องขาย 200-220 บาทต่อกิโลกรัม ซี่โครงขายกิโลกรัมละ 170 บาทจากเดิมเคยขาย 130 บาท ถ้าเขียงหมูไปซื้อหมูบ้านที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ขาย ราคาก็จะถูกลงมาหน่อย แต่หมูชาวบ้านก็มีไม่มากไม่นานก็หมด ราคาหมูฟาร์มที่แพงอยู่นี้ไม่รู้ว่าจะแพงนานขนาดไหนเมื่อไหร่จะถูกลงไม่รู้
ส่วน น.ส.สิริน อัครกมลกิจ อายุ 35 ปี แม่ค้าขายเนื้อวัว กล่าวว่า ราคาหมูแพง ไม่ใช่ว่าเนื้อจะขายได้ดีก็ไม่ใช่ ตนขายเนื้อวัวได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพราะเนื้อวัวส่วนใหญ่จะทำลาบก้อย ทำเป็นกับแกล้ม พอโควิดระบาด ร้านอาหารถูกห้ามขายเหล้าเบียร์ ร้านขายลาบ ก้อย ก็ขายได้น้อย เพราะลูกค้านั่งดื่มเหล้าเบียร์ในร้านไม่ได้ เนื้อวัวก็ยังราคาเท่าเดิม แต่ขายได้น้อยลง
ส่วนแม่ค้าเนื้อหมูอีกราย ก็ระเบิดออกมาแบบมีอารมณ์สุดขีดว่า มันแพงเกินไปแล้วนะ หมูหน้าฟาร์มกิโลกรัมละ 100 กว่าบาท วันหนึ่งตนขายได้ 2-3 ตัว จากที่เคยขาย 5-6 ตัว ไปไม่รอดแน่ๆ ห้างใหญ่เขาขายถูกกว่าเราที่ขายอยู่ในตลาด แต่เขาไปขึ้นราคาซี่โครงและหมูสามชั้น ชาวบ้านจะตายแล้ว ใครจะมาช่วยได้ หรือไม่มีใครสนใจ ชาวบ้าน คนจน คนอื่นจะตายช่างมันอย่างนั้นหรือ ของแพง คนรวยไม่เดือดร้อน ส่วนคนจนไม่มีจะกินแล้ว คนเป็นหนี้เป็นสินจะไม่ตายเหรอ ไม่มีใครมาแก้ได้ ปล่อยให้ขึ้นราคาหมดทุกอย่าง.
ทีมข่าวศรีสะเกษ