ศ. (วิจัย) ดร. ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิตผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และนายสำเริง แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงนามความร่วมมือผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในโครงการเพิ่มขีดความสามารถห้องปฏิบัติการวิเคราะห์คุณภาพน้ำฝนจากการปฏิบัติการฝนหลวงตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 โอกาสนี้ ดร.ประทีป วงศ์บัณฑิต รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านพัฒนาอย่างยั่งยืน และ ดร.พัชทรา มณีสินธุ์ รองผู้ว่าการบริการอุตสาหกรรม วว. ร่วมเป็นเกียรติ ความร่วมมือดังกล่าวมีระยะเวลา 1 ปี โดยมุ่งหวังร่วมกันพัฒนาห้องปฏิบัติการ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและยอมรับในผลการวิเคราะห์ทดสอบทั้งในประเทศและ ซึ่งจะก่อให้เกิดคุณูปการต่อการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ในวันที่ 25 มกราคม 2565
ศ. (วิจัย) ดร. ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า วว. ให้ความสำคัญกับการวิจัยพัฒนาและบูรณาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อสร้างนวัตกรรมที่ตอบสนองการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการพัฒนาประเทศ เพื่อสร้างความสมดุลทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน วว. มีความพร้อมในการขับเคลื่อนงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ทั้งเชิงพาณิชย์และเชิงสังคม ที่ผ่านมา วว. และพันธมิตร คือ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาระบบโปรยสารฝนหลวงบนอากาศยาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการฝนหลวง ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เพื่อพัฒนางานวิจัยที่จะนำไปใช้แก้ปัญหาภัยแล้งของประเทศ อีกทั้งยังเป็นการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร “องค์พระบิดาแห่งฝนหลวง”
สำหรับปี 2565 วว. และกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ประสานความร่วมมือภายใต้ โครงการเพิ่มขีดความสามารถห้องปฏิบัติการวิเคราะห์คุณภาพน้ำฝน โดยทั้งสองหน่วยงานจะนำองค์ความรู้มาพัฒนาขีดความสามารถห้องปฏิบัติการวิเคราะห์คุณภาพน้ำฝน จากการปฏิบัติการฝนหลวงตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 โดย วว. พร้อมนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ดำเนินการให้แก่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเป็นเวลากว่า 20 ปี มาร่วมจัดทำระบบมาตรฐานห้องปฏิบัติการเคมีและให้คำปรึกษาในการจัดทำระบบมาตรฐานห้องปฏิบัติการตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025
“...ความร่วมมือทั้งสองหน่วยงานมีระยะเวลา 1 ปี มุ่งหวังร่วมกันที่จะนำไปสู่การร่วมพัฒนาห้องปฏิบัติการ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและยอมรับในผลการวิเคราะห์ทดสอบทั้งในประเทศและต่างประเทศ อันจะส่งผลให้การควบคุมคุณภาพน้ำฝนจากการปฏิบัติการฝนหลวงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร ซึ่งจะก่อให้เกิดคุณูปการต่อการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน...” ผู้ว่าการ วว. กล่าว
นายสำเริง แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตรมีภารกิจในการปฏิบัติการฝนหลวงให้เกิดฝนในปริมาณและการกระจายที่เหมาะสม เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่การเกษตรและป่าไม้ทั่วประเทศ เพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้กับเขื่อนและอ่างเก็บน้ำที่สำคัญ ตลอดจนบรรเทาภัยพิบัติทางธรรมชาติ ได้แก่ ไฟป่า หมอกควัน และพายุลูกเห็บ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติการฝนหลวงให้ได้อย่างทันท่วงที ถูกที่ ถูกเวลาและตอบสนองความต้องการของพื้นที่ให้ทันต่อสถานการณ์ กรมฝนหลวงและการบินเกษตรจึงได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่มีความรู้ ความชำนาญเฉพาะด้าน ทั้งด้านงานวิจัยและพัฒนา ด้านข้อมูล เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ ตลอดจนการควบคุมคุณภาพการปฏิบัติการฝนหลวง ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถของห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำฝนจากการปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนที่ใช้น้ำฝนจากการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อการอุปโภค บริโภคและเพื่อการเกษตรว่าเป็นน้ำฝนที่มีความปลอดภัยไม่ต่างจากน้ำฝนธรรมชาติ
“...ความร่วมมือกับ วว. ในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มขีดความสามารถของห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ทดสอบตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 17025 ให้เป็นที่ยอมรับทั้งภายในและต่างประเทศ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในผลการวิเคราะห์ทดสอบคุณภาพน้ำฝน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคน้ำฝนที่ได้จากการปฏิบัติการฝนหลวง นอกจากนี้ในอนาคตห้องปฏิบัติการดังกล่าวยังสามารถขยายขีดความสามารถเพื่อรองรับการวิเคราะห์คุณภาพสารฝนหลวง ช่วยให้สามารถควบคุมคุณภาพได้อย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพ...” อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรกล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม รับคำแนะนำปรึกษา และรับบริการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม จาก วว. ติดต่อได้ที่ โทร. 0 2577 9000 โทรสาร 0 2577 9009 เว็บไซต์ www.tistr.or.th อีเมล tistr@tistr.or.th Line@TISTR