กรมชลประทาน เตรียมพร้อมเครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำทั่วประเทศ รับมือสถานการณ์ภัยแล้ง หลังอากาศร้อนจัด พร้อมประสานกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ขึ้นบินปฏิบัติการเติมน้ำในเขื่อนที่มีน้ำน้อย
นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สภาพอากาศในระยะนี้ ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ประกอบกับในช่วงปลายสัปดาห์ความกดอากาศสูงจะแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ เมื่อมาเจอกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด จะทำให้ประเทศไทยตอนบน จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางแห่ง
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ภัยแล้งที่จะเกิดขึ้น โดยการจัดเตรียมรถบรรทุกน้ำและเครื่องสูบน้ำ กระจายอยู่ในพื้นที่โครงการชลประทานทั่วประเทศ ดังนี้ รถบรรทุกน้ำ 295 คัน แยกเป็นภาคเหนือ 55 คัน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 90 คัน ภาคกลางรวมภาคตะวันออกและตะวันตก 114 คัน และภาคใต้ 36 คัน ปัจจุบันมีรถบรรทุกน้ำออกปฏิบัติไปการแล้ว 33 คัน สำหรับเครื่องสูบน้ำ ได้จัดเตรียมไว้ทั้งสิ้น 1,900 เครื่อง แยกเป็นภาคเหนือ 280 เครื่อง ภาคตะวันตะวันออกเฉียงเหนือ 374 เครื่อง ภาคกลางรวมภาคตะวันออกและตะวันตก 395 เครื่อง ภาคใต้ 191 เครื่อง และสำรองไว้ที่ส่วนกลางอีก 660 เครื่อง ปัจจุบันมีเครื่องสูบน้ำออกปฏิบัติการแล้ว 206 เครื่อง
นอกจากนี้ กรมชลประทาน ยังได้ประสานกับกรมฝนหลวงและการบินเกษตรอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมกันวางแผนปฏิบัติการฝนหลวงเติมน้ำในเขื่อนที่มีน้ำน้อย และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ที่แห้งแล้ง โดยจะใช้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ที่ประจำอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศ จำนวน 8 หน่วยปฏิบัติการ กับอีก 5 ศูนย์ปฏิบัติการ โดยในปัจจุบันยังได้เพิ่มศูนย์ปฏิบัติในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดบุรีรัมย์อีก 1 แห่ง เพื่อเติมน้ำให้กับเขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนมูลบน เขื่อนลำแชะ และเขื่อนลำตะคอง ตลอดในช่วงฤดูแล้งนี้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรมชลประทาน ได้สนองนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ให้ดูแลเกษตรกรให้ดีที่สุด และให้เกษตรกรเดือดร้อนน้อยที่สุดเท่าที่จะสามารถดำเนินการได้