หลังจาก คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2541 กำหนดให้วันที่ 13 มี.ค.ของทุกปี เป็นวันช้างไทย เพื่อยกย่องให้เกียรติช้างว่าเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญ และคุณูปการอย่างยิ่งยวดต่อชาติไทยอีกครั้ง นอกเหนือจากเกียรติภูมิที่เคยได้รับในอดีต นายลอย แสนดี อายุ 51 ปี ควาญช้างที่เข้าร่วมโครงการนำช้างคืนถิ่น ของโครงการคชอาณาจักร จ.สุรินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ อยู่บ้านเลขที่ 28 ม.10 บ้านปรีง ต.บะ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ กล่าวว่า เนื่องในวันช้างไทย ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะรัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญของช้าง และแก้ไขปัญหาต่างๆให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยเฉพาะเรื่อง น้ำ อาหาร และไฟฟ้า ถ้ามีน้ำ จะสามารถปลูกพืชอาหารช้างต่างๆได้ดีกว่านี้ และอยากให้มีไฟฟ้าเข้ามา โดยติดมิเตอร์ให้บ้านของควาญช้างและโรงช้าง สำหรับเงินเดือนช้างที่ตนได้รับจาก โครงการนำช้างคืนถิ่น ของโครงการคชอาณาจักร จ.สุรินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เงินเดือนเชือกละ 10,800 บาท แต่ถ้าเป็นช้างที่เข้าร่วมโครงการนำช้างคืนถิ่นเพื่อพัฒนาสุรินทร์บ้านเกิดของ อบจ.สุรินทร์ จะได้เงินเดือนประมาณ 12,000 บาทต่อเชือก ซึ่งพออยู่ได้ อยากให้หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะรัฐบาล เร่งผลักดันโครงการต่างๆให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพราะจะได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามามากๆ ควาญช้างก็จะมีรายได้เสริม ทั้งจากการขายอาหารช้าง บริการให้นั่งท่องเที่ยวนั่งบนหลังช้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่ ต.กระโพ อ.ท่าตูม มีช้างที่เข้าร่วมโครงการ นำช้างคืนถิ่น ในโครงการคชอาณาจักร จ.สุรินทร์ ขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ โครงการนำช้างคืนถิ่นเพื่อพัฒนาสุรินทร์บ้านเกิด ของ อบจ.สุรินทร์ รวมกันมีจำนวนกว่า 300 เชือก และยังมีช้างที่ยังไม่ได้ร่วมโครงการ ซึ่งออกเร่ร่อนและกระจายอยู่ตามปางช้างต่างๆอีกนับร้อยเชือกเช่นกัน