ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
เทพไทวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนพรรคเลือกตั้งซ่อม
01 ก.พ. 2565

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัว ข้อความว่า ผมขออนุญาตวิเคราะห์ ผลการเลือกตั้งซ่อมเขต 9 กทม. (เขตจตุจักร-หลักสี่) เรียงตามลำดับคะแนนของแต่ละพรรค จากผลการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา อย่างตรงไปตรงมา
1.พรรคเพื่อไทย ที่ส่งนายสุรชาติ เทียนทอง ลงรับสมัคร ซึ่งเป็นผู้สมัครเก่า และเกาะติดพื้นที่มาโดยตลอด และเคยเป็น ส.ส.เขตนี้มาก่อน จึงไม่ใช่คนแปลกหน้า หรือคนหน้าใหม่ ย่อมได้เปรียบในเบื้องต้น ประกอบกับพรรคเพื่อไทย ชูประเด็นไม่เอาพลเอกประยุทธ์ ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคยังเป็นกลุ่มคนที่นิยมคุณทักษิณยังเหนียวแน่น เดินแนวการเมืองแบบคนเสื้อแดง ไม่เอาประยุทธ์แต่ยังเอาเจ้า หรือสู้ไปกราบไป จึงทำให้คะแนนได้เพียง 35% ซึ่งยังไม่ถือว่าชนะแบบแลนด์สไลด์
2.พรรคก้าวไกล ที่ประกาศตัวอยู่ตรงข้ามกับพลเอกประยุทธ์อย่างชัดเจน มีฐานเสียงเป็นคนรุ่นใหม่ และกลุ่มต้องการแก้ไข ม.112 ยังคงรักษาคะแนนฐานเสียงเดิมไว้ได้ถึง 20,316 คะแนน ถือว่ายังรักษาระดับความนิยมอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทั้งๆที่ถูกกระแสล้มเจ้ากระหน่ำอย่างหนัก แต่ก็ยังครองใจประชาชนได้ในสัดส่วน 24 % ถือว่ายังมีกระแสความนิยมอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ ที่เซอร์ไพรส์มากกว่านั้น ก็คือมีคะแนนชนะในหน่วยเลือกตั้งเขตทหาร นับว่าเป็นปรากฎการณ์ใหม่ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
3.พรรคกล้า เป็นพรรคการเมืองใหม่ แต่ตัวผู้สมัครหน้าเก่า คือคุณอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เคยเป็นอดีตส.ส.เขตจตุจักร เป็นตัวผู้สมัครที่โดดเด่นมากที่สุด และยังคงรักษาฐานเสียงในเขตจตุจักรไว้ได้ มีคะแนนรวมเป็นที่หนึ่ง แต่พ่ายแพ้มากในเขตหลักสี่ ซึ่งเป็นฐานเสียงของคุณสุรชาติ ยิ่งในโค้งสุดท้าย คุณกรณ์ จาติกวณิชย์ หัวหน้าพรรค ตัดสินใจประกาศจุดยืนสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ เพราะหวังคะแนนจากกลุ่มคนที่เชียร์พลเอกประยุทธ์ แต่เบื่อพรรคพลังประชารัฐ และไม่ชอบการเมืองฮาร์ดคอร์แบบพรรคไทยภักดี จึงถูกตีตราเป็นฝ่ายสนับสนุนพลเอกประยุทธ์อีกพรรคหนึ่ง
4.พรรคพลังประชารัฐ ที่คะแนนลดเหลือ 7,906 คะแนน ถ้าเป็นภาษามวยเขาเรียกว่า แพ้อย่างหมดรูป ซึ่งในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ได้คะแนนชนะเลือกตั้ง เพราะกระแสพลเอกประยุทธ์ล้วนๆ ส่วนตัวของคุณสิระ เจนจาคะ คือ 2437คะแนน จากผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2550 การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ยังเหลือคะแนนอยู่ 7,906 คะแนน คงเป็นคะแนนพรรคพลังประชารัฐ ส่วนการชูประเด็น รักลุงตู่ ชอบลุงป้อม กาเบอร์ 7 แต่ก็ไม่สามารถดึงคะแนนความนิยมขึ้นมาได้เลย กลับแพ้อย่างยับเยินที่สุด
5.พรรคไทยภักดี ประกาศจุดยืนชัดเจน หนุนพลเอกประยุทธ์ ปกป้องสถาบัน เป็นแนวการเมืองแบบขวาจัด ได้คะแนน 5,987 คะแนน นับว่ามากพอสมควร สำหรับพรรคการเมืองใหม่ แต่การชูประเด็นสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ และเล่นแบบฮาร์ดคอร์ หวังคะแนนจากกลุ่มอนุรักษ์นิยม แต่กลับถูกปฎิเสธจากกลุ่มที่เชียร์ประยุทธ์ไปไม่น้อย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการนำเสนอนโยบายขวาจัดแบบสุดขั้วในยุคนี้ ไม่ประสบความสำเร็จ เกิดภาพเหมือนการเมืองหลงยุค
ส่วนพรรคการเมืองเล็กๆ รวมคะแนนทั้ง 3 พรรคยังไม่ถึง 1000 คะแนน ผมขออนุญาตที่จะไม่วิเคราะห์ เพราะผลคะแนนไม่มีนัยยะทางการเมือง ขอยืนยันว่า การวิเคราะห์ครั้งนี้เป็นความเห็นส่วนตัว บนฐานข้อมูลที่ได้รับมา ส่วนใครจะเห็นต่าง ก็ถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ส่วนบุคคล ซึ่งผมให้การเคารพในความเห็นต่างของทุกคน
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ นับว่าเป็นความโชคดีของพรรค ที่ ไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ จึงทำให้มีแต่ได้กับเท่าทุน ไม่มีอะไรเสียไปกว่านี้ ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของการวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มนักวิเคราะห์การเมืองทั่วไป

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...