พลเรือเอก โสภณ วัฒนมงคล ประธานกรรมการ (บอร์ด) กทท. เป็นประธานในพิธีลงนามในสัญญาจ้างนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ในโอกาสดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ กทท. คนที่ 19 ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.64 โดยมีผู้บริหาร พนักงาน กทท. และ ตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กทท. เข้าร่วมพิธี
นายเกรียงไกร จะดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการ กทท. ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.65-31 ม.ค.69 ระยะเวลา 4 ปี สำหรับประวัติ ผอ.กทท. คนใหม่นั้นได้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า และปริญญาโทบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์การทำงานในองค์กรที่สำคัญๆ มากว่า 25 ปี ได้แก่ บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IFCT) มหาวิทยาลัยโยนก ธนาคารทหารไทย (TMB) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โดยได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับรองผู้บริหารสูงสุดของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ก่อนได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ กทท.
นายเกรียงไกร มีหน้าที่รับผิดชอบงานที่เป็นประโยชน์ต่อการเป็นผู้นำองค์กร เพื่อให้ กทท. มุ่งสู่มาตรฐานท่าเรือชั้นนำระดับโลก พร้อมการให้บริการด้านโลจิสติกส์ที่เป็นเลิศ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 73 ด้วยประสบการณ์การบริหารจัดการกำหนดนโยบายการวางแผนกลยุทธ์องค์กรเกี่ยวกับการบริหารหน่วยงาน อาทิ ฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ฝ่ายกฎหมาย สำนักกรรมการและผู้จัดการทั่วไป และสำนักพัฒนาองค์กร รวมถึงการควบคุมกำกับหน่วยงานสายงานสารสนเทศและดิจิทัล วางแนวทางการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
สำหรับผลงานและรางวัลในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมที่สำคัญ ๆ นายเกรียงไกร ได้รับรางวัลบุคคลที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ในปี 59 รางวัลคนดีศรีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ประเภท Talent ในปี 56 และมีงานด้านวิชาการ เป็นผู้วิจารณ์บทความงานสัมมนาวิชาการธนาคารแห่งประเทศไทยประจำปี 57 (BOT Symposium 2014) เรื่องกลไกการค้ำประกันสินเชื่อของภาครัฐและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SME
ในฐานะผู้บริหารสูงสุดขององค์กร นายเกรียงไกร มีความมุ่งมั่นที่จะนำประสบการณ์ และองค์ความรู้ ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมดิจิทัล (Digital Innovation) และเทคโนโลยีด้านการเงิน (FinTech) มาพัฒนา กทท. ให้เป็นท่าเรืออัตโนมัติในโครงการ Smart Port และเป็นท่าเรือที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในด้านการบริการทั้งภาคธุรกิจและภาคประชาชน ช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของประเทศและส่งผลดี ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยจะร่วมมือกับทุกภาคส่วนพัฒนา กทท. เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลอดจนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในการทำงานของพนักงาน และคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับชุมชนโดยรอบ กทท. ให้มีสาธารณสุขที่เหมาะสม