นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการที่กรมการค้าต่างประเทศจัดคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและเอกชนไทยเยือนประเทศญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 7-10 มีนาคม 2560 ทางคณะผู้แทนฯ ได้เข้าพบหารือกับผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงาน Crop Production Bureau ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลการประมูลนำเข้าข้าวของญี่ปุ่นภายใต้กระทรวงเกษตร ป่าไม้และประมงญี่ปุ่น (Ministry of Agriculture, Forestry and Fisheries: MAFF) โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์การค้าข้าวระหว่างสองประเทศ ซึ่งฝ่ายญี่ปุ่นได้แจ้งว่าการประมูลนำเข้าข้าวภายใต้ปีงบประมาณ 2559 จะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2560 และจะเปิดการประมูลการนำเข้าข้าวในปีงบประมาณ 2560 (เมษายน 2560 –มีนาคม 2561) ต่อไป โดยการประมูลนำเข้าข้าวที่ผ่านมาไม่พบปัญหาคุณภาพข้าวที่นำเข้าจากประเทศไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีเนื่องจากเป็นที่ทราบดีว่าผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยทางอาหารเป็นอย่างมาก และได้ขอบคุณฝ่ายไทยที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการจัดส่งตัวอย่างข้าวเพื่อใช้ตรวจสอบภายใต้โครงการตรวจสอบสารพิษจากเชื้อราและสารหนูในข้าวนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งผลการตรวจสอบข้าวนำเข้าจากไทยก็ไม่พบสารตกค้างเกินค่ามาตรฐานที่กำหนด
ฝ่ายไทยได้ขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่นที่นำเข้าข้าวไทยมาโดยตลอด และให้ความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานข้าวของไทย นอกจากนี้ฝ่ายไทยยังได้ใช้โอกาสดังกล่าวประชาสัมพันธ์มาตรฐานข้าวไทยฉบับใหม่ปี 2559 โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดทำเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การค้าข้าวในปัจจุบันให้มีความหลากหลายเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางการค้ากับประเทศคู่แข่ง และมั่นใจว่ามาตรฐานข้าวไทยฉบับใหม่จะสามารถตอบสนองความต้องการได้ตรงใจกับผู้บริโภคทั่วโลกในวงกว้าง
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดข้าวญี่ปุ่นถือเป็นตลาดข้าวคุณภาพดีที่สำคัญของไทยในภูมิภาคเอเชีย โดยนำเข้าข้าวขาว 100% และข้าวเหนียวจากไทยเป็นหลักเพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมแปรรูป เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งนี้ ฝ่ายญี่ปุ่นได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับข้าวคุณลักษณะพิเศษของไทย โดยเฉพาะข้าวไรซ์เบอร์รี่ ซึ่งมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่รักและสนใจในสุขภาพ โดยปัจจุบันไทยพยายามส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ข้าวดังกล่าวให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น ซึ่งญี่ปุ่นก็ให้ความสำคัญในการส่งเสริมการบริโภคข้าว และพยายามเน้นการส่งเสริมข้าวที่มีคุณประโยชน์เช่นกันเดียวกัน นอกจากนี้ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Foodex Japan 2017 จะเป็นช่องทางสำคัญในการส่งเสริมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยชนิดต่างๆ รวมทั้งข้าวคุณลักษณะพิเศษให้เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นมากขึ้นด้วย
ปัจจุบันราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ดีใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่งที่สำคัญ เช่น เวียดนาม อินเดีย แต่ไทยมีคุณภาพมาตรฐานที่เหนือกว่าคู่แข่ง ตลอดจนมีการส่งมอบที่ตรงต่อเวลา ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สำคัญของข้าวไทย ซึ่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเชื่อมั่นว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะให้การสนับสนุนนำเข้าข้าวไทยอย่างต่อเนื่องและเพิ่มปริมาณนำเข้ามากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาการค้าระหว่างสองประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น และหวังว่าความสัมพันธ์เช่นนี้ จะยังดำเนินต่อไปเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ จากสถิติการส่งออกข้าวไทยไปญี่ปุ่นพบว่ามีปริมาณเฉลี่ยปีละกว่า 3 แสนตัน โดยในปี 2559 ญี่ปุ่นนำเข้าข้าวจากไทย 325,436 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่มีปริมาณส่งออก 282,613 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.15 สำหรับปี 2560 (เดือนมกราคม) ญี่ปุ่นนำเข้าข้าวจากไทยปริมาณ 45,728 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีปริมาณนำเข้า 33,178 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.83