นางสาววลัยรัตน์ ศรีอรุณ รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. คนที่สอง ในฐานประธานคณะกรรมการจริยธรรม สปท. แถลงภายหลังการประชุมวิป สปท. ว่า ที่ประชุมได้พิจารณากรณี นายอนุสร จิรพงศ์ สมาชิกสปท. ที่ทำร้ายร่างกาย พนักงานร้านอาหาร เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา โดยแม้กรณีดังกล่าวแม้จะไม่มีผู้ร้องมา แต่ก็เข้าข่ายตามข้อบังคับของคณะกรรมการจริยธรรมสปท. พ.ศ.2559 ข้อ 7 ที่คณะกรรมการจะหยิบยกกรณีนี้มาพิจารณาได้ และเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีข้อเท็จจริงเพียงพอที่คณะกรรมการจริยธรรมฯ จะดำเนินการพิจารณาต่อไปได้ ว่าการกระทำดังกล่าวอาจมีลักษรณะเป็นการฝ่าฝืน การประพฤติและปฏิบัติตนเพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชนและแบบอย่างที่ดีในการรักษาขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรม รวมทั้งการต้องเคารพกฎหมาย ตลอดจนถึงกรอบของศีลธรรมและจริยธรรมตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติและกรรมาธิการ พ.ศ.2558 ประกอบข้อบังคับสปท.พ.ศ.2558 ข้อ 102 และทั้งนี้ คณะกรรมการจริยธรรมจะรวบรวมข้อมูลและพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้งในวันที่ 20 มีนาคมนี้และจะเชิญนายอนุสรมาชี้แจงข้อเท็จจริงในวันที่ 21 มีนาคม และคาดว่าในสัปดาห์ถัดไปจะสามารถสรุปผลได้
นางสาววลัยรัตน์ กล่าวอีกว่า หากที่ประชุมพิจารณาเสร็จจะนำเสนอข้อสรุปเสนอต่อประธานสปท. เพื่อให้ที่ประชุมสปท.พิจารณา ดำเนินการตั้งแต่ ว่ากล่าว การตักเตือน การประณาม และหากพบว่ามีความผิดร้ายแรง จะส่งเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ตามในชั้นนี้ หากมีสมาชิกสปท.เห็นว่าสมาชิกได้ทำความเสื่อมเสียเกียรติต่อสปท.สามารถเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 25 คน เพื่อขอให้ที่ประชุมถอดถอนพ้นจากสมาชิกภาพความเป็น สปท. ได้ โดยต้องมีมติไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่