นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าปัจจุบันการค้าไม่ว่าจะเป็นการค้าภายในประเทศหรือการค้าระหว่างประเทศล้วนแล้วแต่จะต้องมีนวัตกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งในรูปแบบของนวัตกรรมการผลิต หรือนวัตกรรมการบริการ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการและผู้บริโภคให้สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการใหม่ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็วเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะสอดรับกับนโยบายประเทศไทย 4.0 (Thailand 4.0) ที่มุ่งเน้นให้ให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการดำเนินธุรกิจ และจากแนวคิดดังกล่าวนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้จัดงานเปิดตัวสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการค้ายุคใหม่ (New Economy Academy : NEA) ขึ้น เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา โดยได้รับเกียรติจากท่านรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถา ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเข้าร่วมงานกว่า 1,500 ราย โดยสถาบัน NEA แห่งนี้ จะช่วยพัฒนาและฝึกอบรมผู้ประกอบการ SMEs ให้เป็น Smart SMEs ผ่านหลักสูตรทั้งภาควิชาการและภาคปฏิบัติ จากวิทยากรมืออาชีพผู้คร่ำหวอดในวงการธุรกิจมาเป็นอาจารย์และพี่เลี้ยงให้กับผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งจะช่วยติดปีกความรู้ทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ SMEs ไทย สามารถแข่งขันได้ ในตลาดโลก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากการเปิดตัวสถาบัน NEA เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมาสถาบัน NEA ได้มีการเปิดหลักสูตรอบรมผู้ประกอบการ SMEs หลายหลักสูตรและมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมอบรมอย่างล้นหลาม โดยมีโครงการที่น่าสนใจ อาทิ โครงการจัดอบรมสัมมนาหลักสูตรการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน หลักสูตรการรับมือเศรษฐกิจยุคใหม่ หลักสูตรเฉพาะกลุ่มธุรกิจ หลักสูตร Smart Businessman และหลักสูตรเตรียมความพร้อมเจาะตลาดโลก ซึ่งที่ผ่านมามีผู้สนใจเข้าร่วมอบรมสัมมนากว่า 3,800 ราย นอกจากนั้นแล้วกำลังจะเปิดให้มีหลักสูตรการค้าบนโลกดิจิทัล โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจ เช่น กลยุทธ์มัดใจลุกค้าผ่าน Facebook การส่งสินค้าออนไลน์ด้วยโลจิสติกส์และ e-supply chain และการสื่อสารตรงใจคุณลูกค้าสร้างมูลค่าด้วย Line@เป็นต้น สำหรับในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ สถาบัน NEA จะได้จัดให้มีโครงการ Intelligent Trade Program โดยเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างสถาบัน NEA กับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหลักสูตรอบรมให้ความรู้ด้านการทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 เมษายน – 30 มิถุนายน 2560 และรับจำนวนจำกัดเพียง 90 รายเท่านั้น
ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้บริหารองค์กรระดับสูงของหน่วยงานภาคเอกชนในประเทศ CLMVTกระทรวงพาณิชย์ยังได้มีแนวความคิดในการจัดกิจกรรมพิเศษ โดยจะได้มีการเชิญผู้บริหารองค์กรระดับสูงของหน่วยงานภาคเอกชนในประเทศ CLMVT เดินทางมาทำกิจกรรมและร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินธุรกิจระหว่างกันที่ประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการสร้างสายสัมพันธ์อันดีในการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนในกลุ่มประเทศ CLMV อันจะนำมาซึ่งการขยายการค้าและการลงทุนของนักธุรกิจไทยในกลุ่มประเทศ CLMV ต่อไปในอนาคต