ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ธรรมาภิบาล ย้อนกลับ
รมว.ยุติธรรม ถก ผอ.ป.ป.ส.ภาค 1-9 ขยายผลยึดทรัพย์แก๊งยาเสพติด
16 ก.พ. 2565

รมว.ยุติธรรม เรียกประชุมด่วน ผอ.ป.ป.ส.ภาคให้นโยบาย 4 ข้อ ทำงานให้หนักขึ้น เร่งขยายผลยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด กำชับ "ทำให้เร็ว-ละเอียด" มัดตัวอย่าให้หลุดรอด ต้องทำงานเป็นทีมประสานงานร่วมทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สรรพากร สอดคล้องไปทิศทางเดียวกัน

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตนได้เรียกประชุมด่วนร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 1-9 และ ป.ป.ส.กทม. เพื่อมอบนโยบายในการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ โดยมุ่งที่ผลลัพธ์สุดท้าย คือ การยึดทรัพย์ให้เป็นไปตามเป้าหมายตามได้แจ้งแก่สาธารณชน โดยขอให้เร่งรัดและกำชับการปฏิบัติ โดยเฉพาะการขยายผลเพื่อยึดทรัพย์และทำลายเครือข่ายผู้มีอิทธิพล ที่อยู่เบื้องหลังของขบวนการยาเสพติด เนื่องจากพิจารณาตัวชี้วัดที่ได้ตั้งไว้ แต่ละสำนักงานภาคยังทำตัวเลขได้ไม่สูงนัก และยังไม่สอดคล้องกับระยะเวลาและเป้าหมาย ตนจึงกำชับขอให้ดำเนินการ ตนได้ให้นโยบายไว้ 4 ข้อ คือ 1.กรณีตำรวจ หรือทหาร หรือฝ่ายปกครอง ได้ดำเนินการจับกุมให้รีบเข้าไปดำเนินการขยายผลและสืบสวนและยึดทรัพย์ทันที โดยให้ประสานงานทันทีเมื่อมีการจับกุม ไม่ต้องรอให้ฝ่ายจับกุมแจ้งเป็นหนังสือมาถึงส่วนกลาง ในแต่ละเคสต้องมีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.เข้าประกบทำงานไปพร้อมกับชุดจับกุม

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า 2.การดำเนินการสืบสวนต่อทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดยาเสพติดนั้น ต้องดำเนินการให้รวดเร็วและละเอียดรอบคอบ เพื่อให้มีข้อมูลและรายละเอียดเพื่อนำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองระดับภาค และคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินชุดใหญ่ เพื่อให้ทรัพย์สินไม่รั่วไหลและหลุดรอดไป ควรทำการสืบสวนและสอบปากคำด้วยความละเอียดรอบครอบและครบประเด็น 3.ตัวชี้วัดที่ได้กำหนด 3 กรณี คือ ความผิดสมคบ มาตรการความผิดฟอกเงิน และความผิดตามประมวลรัษฏากร ขอให้ประสานอย่างใกล้ชิดกับกรมสรรพากรในพื้นที่ และ 4.ต้องทำงานให้หนัก โดยเฉพาะประเด็นการสร้างความรับรู้ตามประมวลกฎหมายใหม่ กฎหมายลูก และระเบียบที่ทยอยออกมา ทั้งในภาคประชาชนและการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ เช่น การขออนุมัติสมคบที่จะให้เข้ามาขอที่ส่วนกลางทั้งหมด เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันก่อนกระจายอำนาจกลับไปยังภูมิภาค

"การเรียกประชุมด่วนในครั้งนี้ เพราะตัวเลขของการยึดทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมานั้น ได้เพียง 1,370 ล้านบาท ถือว่ายังไม่เข้าเป้าสำหรับผมในฐานะผู้บริหาร ดังนั้นเราต้องเร่งดำเนินการตามที่รับปากกับประชาชนไว้ ที่เราตั้งเป้าอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท ซึ่งการที่เราเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.เราจะต้องทำงานเป็นทีมเวิร์คร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้ง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองและสรรพากร ทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจกัน เพราะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ผมอยากเห็นสถานการณ์ยาเสพติดในประเทศดีขึ้น ขอให้เราร่วมมือบูรณาการกันทุกส่วน ผมเชื่อว่าเมื่อสิ้นสุด 4 ไตรมาส เราจะทำได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน" นายสมศักดิ์ กล่าว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...