ล่าสุดได้ให้การต้อนรับและหารือกับนายชานโดร์ ชีโปช เอกอัครราชฑูตฮังการีประจำประเทศไทย นำเสนอข้อมูลความก้าวหน้าในการพัฒนาโครงการอีอีซี โอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนและการอำนวยความสะดวกการลงทุนในพื้นที่ และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รวมทั้งได้หารือถึงแนวทางการชักจูงการลงทุนจากภาคธุรกิจของฮังการีมายังพื้นที่อีอีซี ซึ่งมีความสนใจในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ และการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย ได้แสดงความสนใจในการสร้างความร่วมมือกับ สกพอ. ในการชักจูงการลงทุนบริษัทเป้าหมายจากฮังการี และการจับคู่ทางธุรกิจกับภาคเอกชนไทย โดยทางสถานทูตฮังการีประจำประเทศไทยและ สกพอ.จะกำหนดสาขาความร่วมมือที่สนใจร่วมกันและชักจูงการลงทุนจากภาคเอกชนจากฮังการีต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้ให้การต้อนรับ นายสเตฟาน โกโลวิน รองหัวหน้าสำนักงาน สถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐรัสเซียประจำประเทศไทยและคณะ และหารือประเด็นความคืบหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐานและโอกาสการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. สุขภาพ 2. ดิจิทัล 3. การลดการปล่อยคาร์บอน และ 4. โลจิสติกส์
“ผู้แทนฝ่ายรัสเซียสนใจสานความร่วมมือระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรม ในสาขาดิจิทัล การแพทย์ พลังงานทดแทน การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ การพัฒนาโครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก และด้านการศึกษาและการฝึกอบรมบุคลากร โดยสกพอ.เสนอให้เข้าเยี่ยมชมโครงการเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EECi ในพื้นที่ อีอีซี ระหว่างการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสหพันธ์สาธารณรัฐรัสเซีย ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค ช่วงปลายปี 2565 ด้วย” นายเพ็ชร กล่าว