เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 ก.พ. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมศรีลำดวน โรงแรมพรหมพิมาน อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ดร.สันติ ป่าหวาย หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้จัดการฝึกอบรมการเป็นวิทยากรหลักสูตรฝึกอบรมอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬาของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารุ่นที่ 2 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาสาสมัครจากทุกภาคส่วน ทั้ง 20 จังหวัด จังหวัดละ 6 คน รวม 120 คน มีการฝึกอบรมตั้งแต่วันที่ 21-23 ก.พ.65
ดร.สันติ ป่าหวาย หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยว่า ตามที่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ได้มอบหมายให้ตน ดำเนินการจัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “การเป็นวิทยากรหลักสูตรอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา” รุ่นที่ 2 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ซึ่งผู้เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้เป็นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการคัดเลือกมาจากหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาธารณสุขจังหวัด กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สถาบันการศึกษาที่จัดการเรียนการสอนด้านการออกกำลังกายและกีฬา สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการออกกำลังกายและกีฬาในทุกจังหวัด
ดร.สันติ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ตามนโยบายของ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬานั้น ต้องการให้มีอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬาที่มีคุณภาพไปประจำอยู่ในทุกชุมชนทั่วประเทศ ในปี 2565 นี้ จังหวัดละ 100 คน รวม 7,600 คน โดยจะเชิญผู้มีจิตอาสา เข้ามามีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมทางด้านการท่องเที่ยว ดูแลนักท่องเที่ยว ส่งเสริมกิจกรรมด้านท่องเที่ยว ดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งการอบรมในครั้งนี้ เพื่อนำความรู้ ไปถ่ายทอดให้กับอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬาประจำจังหวัด ซึ่งคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้าร่วมอาสาสมัครท่องเที่ยวต้องมีอายุ 18 ปี ขึ้นไป ต้องมาด้วยใจ มาด้วยใจจิตอาสา
หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ยังได้มีนโยบายในการเตรียมจัดทำโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในชุมชน ด้วยการท่องเที่ยวชุมชน จังหวัดละ 1 ล้าน เป็นโครงการที่ต้องการส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวชุมชนในประเทศไทย ที่มีอยู่กว่า 3,6000 แห่งทั่วประเทศ ที่จะขับเคลื่อนให้มีการกระตุ้นลงสู่ชุมชนจริงๆ เพราะปัจจุบันเรามุ่งเน้นแต่การท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว แต่เราขาดการส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชนไป ดังนั้นการท่องเที่ยวชุมชน ไม่ว่าจะเป็นของหน่วยงานไหน กระทรวงใด เราจะมาบูรณาการร่วมกัน แล้วนำงบประมาณ จังหวัดละ 1 ล้านบาท 76 จังหวัด รวม 76 ล้านบาทมาพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนเพื่อให้เกิดรายได้ให้ชุมชน เกิดการหมุนเวียนเงินในชุมชน
ส่วน จ.ศรีสะเกษ เป็นเมืองน่าอยู่ เป็นเมืองที่มาแล้วมีความสุข มาแล้วได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น มาแล้วเราได้รอยยิ้มจากพี่น้องประชาชน ศรีสะเกษ เป็นเมืองที่สร้างกิมมิค (Gimmick) ขึ้นมามากมาย ซึ่งตนได้ยิน Gimmick ต่างๆของ นายวัฒนา พุฒชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ แล้ว ทำให้ได้ยินแล้วอยากมา อยากค้นพบ อยากมาพบเจอ ดังนั้นตนมองว่าศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดศรีสะเกษ สามารถเดินต่อได้ โดยเฉพาะผู้นำในระดับจังหวัด ผู้นำท้องถิ่น ที่มีส่วนร่วม การท่องเที่ยว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำงานแบบบูรณาการ ทำงานแบบร่วมมือร่วมใจกัน จึงจะเกิดการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวและกีฬาอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป” ดร.สันติ กล่าว.
ทีมข่าวศรีสะเกษ